วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2558
นิทานสอนใจ นิทานปลาดาว
วันนี้ ก็เอานิทานดีๆ มาให้อ่านกันเช่นเคยนะครับ สำหรับนิทานในวันนี้มาจากต้นฉบับภาษาอังกฤษที่มีชื่อเรื่องว่า The star thrower เป็นบทความที่รวมอยู่ในหนังสือชื่อ The Unexpected Universe ที่ตีพิมพ์ในปี 1969 ของนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อว่า Loren Eiseley และก็ได้มีการนำเอามาแปล ดัดแปลงมากมาย แต่แก่นของเรื่องก็ยังคงเป็นแบบเดียวกับที่จะนำมาให้อ่านกันนี้ ลองอ่านดูนะครับ เผื่อจะได้ข้อคิดอะไรดีๆ จากนิทานเรื่องนี้บ้าง
กาล ครั้งหนึ่ง ยังมีนักเขียนคนหนึ่งที่มีกิจวัตรชอบออกไปเดินเล่นตามชายหาด ก่อนเริ่มงานเขียนของเขาทุกวัน วันหนึ่งขณะที่เดินเล่นตามปกติ เขาสังเกตเห็นว่าที่ริมฝั่งมีใครบางคน มองไกลๆเหมือนกำลังเต้นรำอยู่ เขานึกขำอยู่ในใจว่าใครหนอมาเต้นรำแต่เช้า ว่าแล้วก็สาวเท้าเข้าไปดูให้แน่ใจ
ต่อเมื่อเดินเข้ามาจนใกล้ นักเขียนจึงได้เห็นว่าเป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่ง และสิ่งที่เขาทำอยู่นั้น ไม่ได้ใกล้เคียงกับการเต้นรำแม้แต่น้อย เด็กหนุ่มกำลังเดินขึ้นลงระหว่างชายฝั่งและชายหาด เพียรเก็บวัตถุเล็กๆบางอย่างขึ้นมา แล้วขว้างมันลงทะเลครั้งแล้วครั้งเล่า
นักเขียนเดินเข้าไปแล้วกล่าวทัก “สวัสดีพ่อหนุ่ม ขอถามหน่อยได้มั้ย เธอทำอะไรอยู่”
ชายหนุ่มชะงัก มองมาแล้วตอบว่า “ผมกำลังขว้างปลาดาวกลับลงทะเลครับ”
“ทำไมเธอต้องทำอย่างนั้นด้วยล่ะ” นักเขียนถามด้วยความประหลาดใจ
“พระอาทิตย์กำลังขึ้น และน้ำทะเลกำลังลง ถ้าผมไม่โยนมันกลับลงน้ำ มันก็จะต้องตาย” ชายหนุ่มตอบ
“แต่ นี่แน่ะพ่อหนุ่ม เธอไม่เห็นหรอกรึว่าชายหาดมันทอดยาวออกไปตั้งหลายกิโลเมตร และปลาดาวก็มีอยู่เกลื่อนไปตลอดทาง ที่เธอทำลงไปมันไม่ช่วยให้อะไรแตกต่างหรอก”
ชายหนุ่มไม่ว่าอะไร เขาก้มลง หยิบปลาดาวขึ้นมาอีกตัวแล้วขว้างลงทะเล เมื่อเห็นว่ามันลงน้ำไปแล้ว เขาจึงกล่าวกับนักเขียนว่า “ก็แตกต่างที่ปลาดาวตัวนั้นไงครับ"
อ่าน จบแล้วรู้สึกอย่างไรบ้างครับ ในชีวิตจริง เรามักจะพบเจอกับเหตุการณ์คล้ายๆ กันแบบนี้ อยากทำสิ่งที่ดี อยากทำความดี แต่กลับถูกใครบางคนมาทักว่า ไม่เห็นจะมีใครเขาทำแบบนั้นกันเลย ทั้งๆ ที่ถ้าเราได้ทำความดีนั้นเพียง 1 ครั้ง มันก็ช่วยสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นแล้ว ไม่เห็นจะต้องไปมองว่าคนส่วนใหญ่ไม่เห็นทำกัน หรือทำไปก็เท่านั้น เพราะคงช่วยอะไรไม่ได้ทั้งหมด
ถึงแม้จะช่วยไม่ได้ทั้งหมด แต่เราก็ได้ช่วย อย่างน้อยก็ทำให้มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้น แม้ว่ามันจะเล็กน้อยมาก แต่ก็ถือว่ามีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นแล้ว ดีกว่าอยู่เฉยแล้วนั่งปลง ทั้งๆ ที่เรายังมีความสามารถที่จะช่วย และทำความดีได้แต่กลับไม่ทำอะไรเลย
การช่วยให้หนึ่งชีวิตอยู่รอดได้ แม้ว่าจะไม่สามารถช่วยได้อีกล้านชีวิต แต่ก็ถือว่าได้ช่วยทำสิ่งที่ดีแล้ว จริงมั้ยครับ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น