แม้ว่าเศรษฐกิจในช่วงนี้จะดูไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ยังมีหลายบริษัทที่ยังต้องการพนักงานเข้ามาช่วยทำงานอยู่เหมือนกัน ก็ยังคงมีการสรรหาคัดเลือกพนักงานอยู่อย่างเป็นปกติ สิ่งที่น่าสนใจก็คือ หลายๆ องค์กรต่างก็บ่นกันเยอะว่า ทำไมระยะหลังๆ การสรรหาคัดเลือกพนักงานจึงไม่ค่อยได้พนักงานที่ดี และมีคุณสมบัติที่ตรงกับที่บริษัทต้องการเลย ทั้งๆ ที่หลายๆ องค์กรก็พยายามที่จะวางระบบการสรรหาคัดเลือกอย่างดี แต่ก็ไม่ได้ผลอย่างที่ต้องการ
- หาแหล่งผู้สมัครไม่ตรงกับคุณสมบัติที่ต้องการ ผม เห็นหลายบริษัทยังคงใช้วิธีการสรรหาแบบเดิมๆ ก็คือ ประกาศลงหนังสือพิมพ์บ้าง ตามเว็บไซต์ที่หางานบ้าง ลงใน Facebook บ้าง หรือใน Social media ต่างๆ ฯลฯ ซึ่งเป็นการลงประกาศแบบ mass ก็คือ เข้าถึงกลุ่มคนจำนวนมาก แต่ไม่ตรงกับกลุ่มพนักงานที่องค์กรต้องการ โดยหลักการแล้วการสรรหานั้น HR จะต้องหาแหล่งคนที่ตรงกับคุณสมบัติขององค์กรให้เจอ ว่าคนกลุ่มนี้อยู่ที่ไหน แล้วไปหาคนตามแหล่งนั้น ก็จะได้คนที่มีคุณสมบัติที่ตรงกว่า การมีหลายช่องทาง แต่ไม่เคยพิจารณาว่าช่องไหนที่จะมีคนตรงกับที่เราต้องการ
- ไม่เคยมีการทำฐานข้อมูลของผู้สมัครไว้ หลายๆ องค์กรไม่เคยที่จะทำฐานข้อมูลรายชื่อของผู้สมัครที่เราไปหามา บางที่ไม่เคยมีโครงการสรรหาอะไรเลย จะหาก็ต่อเมื่อมีตำแหน่งงานว่างเกิดขึ้น ก็หาที ถ้าจะให้สรรหาได้ดี เร็ว และได้คนที่ตรง HR จะต้องสร้างฐานข้อมูลของคนที่ต้องการสมัครงานขึ้นมา โดยอาจจะต้องไปหาตามแหล่งคนที่เราต้องการเพื่อเพิ่มฐานข้อมูลตรงนี้ไว้ตลอด เวลา เมื่อไหร่ที่เราต้องการคน เราก็สามารถเปิดฐานข้อมูลนี้แล้วก็ติดต่อผู้สมัครไปได้เลย ถ้าผู้สมัครบางคนได้งานแล้วและไม่คิดจะเปลี่ยนงานในช่วงนี้ เราก็สามารถที่จะทำหมายเหตุไว้ เพื่อในอนาคตอีกสัก 2-3 ปีข้างหน้า เราอาจจะติดต่อไปอีกที ในกรณีที่เรามีตำแหน่งว่างลงอีก ก็จะช่วยให้เราสามารถที่จะสรรหาคนได้เร็วขึ้น ไม่ต้องเริ่มต้นหาใหม่ทุกครั้งที่มีการขอคนเข้ามา
- คนสรรหาไม่มีความรู้ในการสรรหาผู้สมัคร ใน ปัจจุบันการสรรหาผู้สมัครเพื่อมาเลือกนั้น ต้องมีรายละเอียดมากขึ้น คนที่รับผิดชอบเรื่องนี้จะต้องรู้ลึกในตำแหน่งงานที่จะสรรหา ต้องมีความเข้าใจในวัฒนธรรมองค์กร และค่านิยมขององค์กรจนสามารถที่จะกำหนดกลุ่มคนผู้สมัครได้ว่า เราต้องไปหาคนแบบนี้ที่ไหนได้บ้าง ไม่ใช่ประกาศไปเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่หาช่องทางใหม่ๆ มากขึ้นเรื่อยๆ บางองค์กรมีช่องทางสรรหามากมาย มีประกาศตามแหล่งงานต่างๆ มากมาย แต่กลับไม่เคยได้ผู้สมัครที่เหมาะสมมาเลย บางครั้งไม่มีใครสมัครมาเลยด้วยซ้ำไป หรือถ้ามี ก็สมัครมาแบบไม่ตรงกับงาน เหมือนกับขอลองส่งมาก่อน ได้ไม่ได้ค่อยว่ากัน พนักงานสรรหาบางคนขอให้ได้จำนวนใบสมัครมาเยอะๆ ไว้ก่อน แต่จะตรงหรือไม่นั้นไม่รู้ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ เราก็จะเสียเวลาในการสรรหาโดยที่เราไม่มีการ focus ลงไปว่าเราจะต้องสรรหาคนจากแหล่งไหน คุณสมบัติจะต้องเป็นอย่างไร
- คนที่คัดเลือกพนักงานไม่มีทักษะมากพอ สาเหตุ หลักที่เราได้คนไม่ตรงกับที่เราต้องการก็คือ เราใช้คนแบบไหนที่มาคัดเลือกพนักงาน ใครก็ได้ หรือต้องผ่านการอบรมทักษะในการสัมภาษณ์ และต้องเป็นพนักงานระดับบริหารที่รู้วัฒนธรรมองค์กรดี รู้ค่านิยมองค์กรดี ถ้าเราให้พนักงานใครก็ได้ที่มีเวลามานั่งสัมภาษณ์ผู้สมัครไปเรื่อยๆ เราก็จะได้พนักงานมาแบบเรื่อยๆ เหมือนกัน จริงๆ แล้วการสัมภาษณ์เพื่อคัดเลือกพนักงานเข้าทำงานนั้น จะต้องทำกันอย่างเป็นระบบ และต้องจริงจังมากๆ ไม่ใช่ปล่อยให้ใครก็ได้มาสัมภาษณ์ คนสัมภาษณ์ที่ดีนั้นจะต้องเป็นพนักงานที่มีผลงานที่ดีมาโดยตลอด มีความลึกซึ้งในวัฒนธรรมองค์กร และรู้ว่าขณะนี้องค์กรของเราต้องการคนแบบไหนที่จะมาขับเคลื่อนองค์กรให้ บรรลุเป้าหมายที่ต้องการได้
- การสัมภาษณ์ทำเหมือนเป็นพิธี การ สัมภาษณ์พนักงานถือเป็นวิธีการคัดเลือกที่นิยมกันมาก เรียกได้ว่าทุกบริษัท ทุกองค์กรจะต้องมีการสัมภาษณ์ผู้สมัคร ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ แสดงว่า การสัมภาษณ์จะต้องเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ที่จะทำให้เราได้คนที่ดี หรือไม่ดีเข้ามาทำงาน ดังนั้นถ้าเราสัมภาษณ์แบบขอไปที หรือทำแค่เป็นพิธี เราก็จะได้คนแบบขอไปทีเช่นกัน
- ใช้เครื่องมือในการคัดเลือกโดยไม่พิจารณาให้ตรงกับคุณสมบัติที่ต้องการ หลาย องค์กรได้พยายามนำเอาเครื่องมือในการคัดเลือกพนักงานมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นแบบทดสอบทัศนคติ แบบทดสอบความถนัด แบบทดสอบบุคลิกภาพ ฯลฯ จนบางครั้งเราก็เชื่อแบบทดสอบเหล่านั้นมากเกินไป บางองค์กรถ้าผู้สมัครทำคะแนนแบบทดสอบได้ดีก็รับเลย โดยไม่ดูว่าแบบทดสอบที่ทำนั้นมันวัดผลตรงกับสิ่งที่เราต้องการหรือเปล่า แถมยังไม่มีการสัมภาษณ์เพื่อที่จะยืนยันอีกครั้งว่าเหมาะหรือไม่เหมาะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น