วันพุธที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2557

พนักงานคิดอย่างไรกับการฝึกอบรม


เรื่องของการฝึกอบรม เป็นอีกเครื่องมือหนึ่งในการพัฒนาพนักงาน ซึ่งในปัจจุบันมีความนิยมอย่างมาก ดังจะเห็นได้จากการที่องค์กรต่างๆ มีการส่งพนักงานไปเข้าอบรมตามหลักสูตรต่างๆ รวมทั้งมีการจัดฝึกอบรมกันภายในองค์กรเอง เพื่อเป็นการเพิ่มความรู้ทักษะในการทำงานให้แก่พนักงาน


ในมุมขององค์กรเองนั้น การฝึกอบรมถือว่าเป็นสิ่งที่องค์กรจัดให้กับพนักงานเพื่อต้องการให้พนักงาน มีความรู้ความสามารถที่สูงขึ้น และพร้อมที่จะรับภาระหน้าที่ใหม่ๆ ที่สูงขึ้นได้ในอนาคตข้างหน้า ซึ่งองค์กรมองว่า เรื่องของการอบรมนั้นเป็นการลงทุนให้กับพนักงาน องค์กรส่วนใหญ่ที่เห็นความสำคัญของการพัฒนาพนักงานของตนเอง ก็มักจะให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมพนักงานอย่างต่อเนื่อง และมีการวางแผนการพัฒนาพนักงานอย่างเป็นระบบ

ส่วนมุมมองของพนักงานต่อ การฝึกอบรมนั้น ก็มีอยู่หลายมุมมองด้วยกันครับ เท่าที่สอบถามจากผู้เข้าอบรม และจากลูกค้าที่มีการจัดฝึกอบรมภายในองค์กรให้กับพนักงานเอง ก็มีการให้ความเห็นมาเยอะว่า พนักงานแต่ละคนจะมีทัศนคติต่อการฝึกอบรมที่แตกต่างกันออกไป ลองมาดูกันนะครับ
  • มองว่าการฝึกอบรมเป็นสิ่งที่ดีมาก พนักงานกลุ่มแรกจะเป็นพนักงานที่ชอบเรื่องของการพัฒนาตนเองอย่างมาก ชอบที่ถูกส่งไปฝึกอบรมในหลักสูตรต่างๆ เพื่อทำให้ตนเองมีความรู้ความสามารถมากขึ้น พนักงานกลุ่มนี้จะรู้สึกไม่ค่อยดีนัก ถ้าไม่มีการส่งเขาไปฝึกอบรมอย่างสม่ำเสมอ และจะรู้สึกว่า องค์กรไม่ให้ความสำคัญกับตัวเขา พนักงานกลุ่มนี้ถือว่ามีทัศนคติที่ดีต่อการฝึกอบรม และพัฒนา
  • มองว่าการฝึกอบรมเป็นการเสียเวลา กลุ่ม ที่สองมักจะมองการฝึกอบรมว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เขาเสียเวลาทำงาน งานก็เยอะอยู่แล้ว ทำไมต้องส่งเขาไปอบรมอะไรอีกมากมาย บางคนถึงกับมองว่า ฝึกอบรมให้ตายยังไงก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย เพราะแทบจะไม่ได้เอาไปใช้ในการทำงาน ดังนั้นพนักงานกลุ่มนี้มักจะอิดออด และไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ในการไปอบรม เพราะจริงๆ แล้วอยากทำงานมากกว่า
  • มองว่าเป็นเรื่องสำหรับพนักงานที่มีผลงานไม่ดี พนักงานบางคนมองการฝึกอบรมว่า เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับพนักงานที่มีผลงานไม่ดี ก็เลยต้องถูกส่งไปอบรม เพื่อที่จะได้เอามาพัฒนาผลงานของตนเองให้ดีขึ้น ดังนั้นถ้าตนเองถูกส่งไปอบรม ก็จะรู้สึกแย่มาก เพราะคิดเอาเองว่า ที่ถูกส่งไปก็เนื่องมาจากนายมองว่าเขามีผลงานยังไม่ดีพอ บางคนก็รู้สึกน้อยอกน้อยใจกันไปใหญ่
  • มองว่าเป็นสิ่งที่ทำให้พนักงานไม่ต้องทำงาน พนักงาน อีกกลุ่มหนึ่งมองว่าการถูกส่งไปอบรมนั้นเป็นสิ่งที่ดีมาก ที่ว่าดีนั้นไม่ใช่ได้ความรู้อะไรนะครับ ที่ดีก็เพราะว่า ไม่ต้องทำงาน แถมเวลาไปอบรมก็อาจจะแค่ไปเซ็นชื่อ แล้วก็ชิ่งไปทำอย่างอื่นได้อีก โดยที่นายไม่รู้ พนักงานกลุ่มนี้ถือว่าเป็นกลุ่มที่แย่ที่สุดในองค์กรเลยก็ว่าได้ เพราะงานก็ไม่อยากทำ แถมส่งให้ไปเรียนก็ไปแค่ลงชื่อไว้ แต่โดดเรียนไปทำอย่างอื่นแทน
ดังนั้นการที่เราจะวางระบบการ พัฒนาพนักงานในองค์กร เราจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงทัศนคติของพนักงานให้มองเครื่องมือเหล่านี้ว่า เป็นการทำให้เขาเก่งขึ้น ดีขึ้น และเป็นการเสริมศักยภาพในการทำงานให้สูงขึ้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม แทนที่จะมองว่าเป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับพนักงานที่มีผลงานไม่ดี

การใช้การฝึกอบรมนั้น ก็ต้องมีการวางแผนกันระหว่างหัวหน้ากับลูกน้องอย่างเป็นระบบเช่นกัน ไม่ใช่นึกจะส่งไปอบรมอะไรก็ส่งไป แบบว่ามีงบประมาณกำหนดไว้ ก็ต้องหาทางใช้งบประมาณให้มันหมดไป แบบนี้ทำไปพนักงานก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย

การที่จะทำให้การฝึกอบรม เป็นประโยชน์ต่อทั้งพนักงานและองค์กรนั้น หัวหน้าและลูกน้องจะต้องมีการวางแผนร่วมกันโดยอาศัยผลงาน และ Competency ที่ได้กำหนดไว้นั้น มาเป็นเครื่องมือในการประเมินดูว่า พนักงานเองยังต้องเสริมอะไร ยังขาดอะไร จะได้เติมได้ถูกต้อง ทั้งนี้ก็เพื่อทำให้ผลงานของพนักงานคนนั้นดีขึ้นเรื่อยๆ อบรมไปแล้วต้องทำให้พนักงานมีผลงานที่ดีขึ้น หรือมีพฤติกรรมในการทำงานที่ดีขึ้น

โดยปกติก็จะมีการวางแผนร่วมกันตอนต้นปี ว่าปีนี้จะต้องพัฒนาในเรื่องอะไรบ้าง และแต่ละเรื่องจะใช้วิธีการพัฒนาในรูปแบบใด อาทิ อบรม ดูงาน สอนงานโดยหัวหน้า ฯลฯ จากนั้นก็ต้องมีการวางแผนทางด้านเวลาว่า ช่วงไหนที่จะต้องพัฒนาอะไร อย่างไร ต้องเสร็จเมื่อไหร่ เพื่อให้มีผลต่อผลงานของพนักงานในปีนั้นๆ หรือปีถัดไป บางเรื่องอาจจะเป็นการพัฒนาระยะยาว บางเรื่องอาจจะเป็นระยะสั้นๆ

ถ้าเราสามารถทำได้แบบนี้ การพัฒนาพนักงานขององค์กรก็จะเป็นไปอย่างมีระบบ งบประมาณที่ใช้ก็จะคุ้มค่า และพนักงานเองก็จะรู้สึกว่าตนเองเก่งขึ้น และได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายผลงานดีขึ้น ผลงานของหน่วยงานก็ดีขึ้น และผลงานขององค์กรก็ดีขึ้นอีกเช่นกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น