วันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2556

ขึ้นเงินเดือน กับปัญหาเดิมๆ



เดือนมกราคมนี้ พนักงานส่วนใหญ่ จะได้รับการขึ้นเงินเดือนประจำปีตามผลงาน ซึ่งเป็นผลมาจากการประเมินผลการปฏิบัติงานเมื่อปีที่ผ่านมา และนำเอาผลที่ได้มาปรับเงินเดือน ซึ่งสิ้นเดือนนี้ พอถึงเวลาเงินเดือนออก ผมเชื่อว่าจะมีทั้งคนที่ดีใจ และคนที่เสียใจ รวมถึงคนที่ไม่พอใจ ปะปนกันไป ทั้งๆ ที่ทุกคนที่กล่าวมานั้น ได้รับการขึ้นเงินเดือนให้มากกว่าเดิม เมื่อเทียบกับเงินเดือนของปีที่ผ่านมา ทำไมถีงเป็นแบบนั้น
  • ระบบการประเมินผลงานไม่เป็นธรรม พนักงานบางคนได้รับการขึ้นเงินเดือนในอัตราที่สูง แต่กลับไม่พอใจ เป็นเพราะอะไร สาเหตุแรกก็คือ เป็นเพราะคนอื่นที่ผลงานแย่ๆ ก็ได้รับการขึ้นเงินเดือนที่ไม่ต่างกับเขาเลยเช่นกัน นั่นแสดงว่า ระบบการประเมินผลงานขององค์กรน่าจะมีปัญหา หรือไม่ก็คนประเมินมีปัญหาในการมองผลงานพนักงาน ก็เลยทำให้เกิดการขึ้นเงินเดือนที่ไม่แตกต่างกันทั้งๆ ที่ผลงานต่างกัน
  • ได้ขึ้นเท่ากันหมดทั้งองค์กร พนักงานหลังจากได้รับทราบว่าได้ขึ้นเงินเดือน และได้ขึ้นเท่าๆ กันหมดทั้งองค์กร ก็รู้สึกไม่ดี เพราะรู้สึกว่า ตัวเองทุ่มเทผลงานให้กับบริษัทอย่างเต็มที่ แต่ทำไมถึงได้รับรางวัลพอๆ กับพนักงานที่ไม่ทำอะไร วันๆ เอาแต่เดินไปเดินมา
  • มีผลการประเมินที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน แต่ได้รับการขึ้นเงินเดือนไม่ต่างกัน นี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พนักงานไม่พอใจ กล่าวคือ คนที่ได้ผลงาน A กับคนที่ได้ผลงาน D ได้รับการขึ้นเงินเดือนที่แทบจะไม่แตกต่างกันเลย เช่น A ได้ 6% ส่วน D ได้ 5% ต่างกันแค่ 1% เท่านั้น แบบนี้คนที่ทำผลงานดี ได้รับเงินเดือนขึ้นก็ต้องไม่พอใจอย่างแน่นอน
  • บอกว่าผลงานออกมาดี แต่กลับได้ขึ้นน้อย นี่ก็เป็นอีกปัญหา หัวหน้าประเมินผลงาน และบอกพนักงานไปแล้วว่า ผลงานออกมาอยู่ในเกณฑ์ที่ดีนะ น่าจะได้เงินเดือนขึ้นในอัตราที่สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน แต่พอ สลิปเงินเดือนออกมา กลับตรงข้ามกับสิ่งที่คาดหวัง กรณีแบบนี้เกิดจากการไปปรับผลการประเมินใหม่ อีกครั้งโดยที่ไม่มีการบอกกล่าวกันว่ามีการเปลี่ยนแปลง หรือหัวหน้างานดันเผลอบอกพนักงานไป โดยที่ผลการประเมินนั้นยังไม่รับการพิจารณาจากผู้บังคับบัญชาถัดขึ้นไป ก็เลยทำให้เกิดปัญหาตามมา
  • ขึ้นเงินเดือนแล้วพนักงานส่วนใหญ่รู้สึกไม่ดีเลย ปัญหานี้เป็นปัญหาที่ผมเคยเจอในบางองค์กรที่เข้าไปเป็นที่ปรึกษาให้ สิ่งที่ได้พบ และได้รับฟังจากพนักงานมาก็คือ ได้เงินเดือนขึ้นน่ะ เอาแน่นอน เพราะเป็นเงินที่บริษัทให้มา แต่ให้มาแล้วรู้สึกดีกับเงินก้อนนั้นหรือไม่ ส่วนใหญ่ตอบว่าไม่เลย ตรงกันข้าม กลับทำให้รู้สึกแย่กับองค์กร และผู้บริหารมากขึ้น สาเหตุที่พนักงานตอบแบบนี้ก็เนื่องจาก เขารู้สึกไม่ดีกับระบบการประเมินผลงาน และระบบการขึ้นเงินเดือนตามผลงานนั่นเอง อีกอย่างก็คือ เขาไม่ได้รับคำตอบอะไรจากหัวหน้า และผู้บริหารเลย เวลาที่เข้าไปถาม ก็กลับไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน และสมเหตุสมผล จนสุดท้าย ก็ทำใจว่า ทำๆ ไปเหอะ นายจะให้ยังไง ก็รับๆ ไว้ อย่าไปคิดมาก แต่ก็ไม่ทุ่มเททำงานเช่นกัน ทำแค่ให้พอมีผลงานให้หัวหน้าเห็นก็พอแล้ว ลองคิดเล่นๆ นะครับว่า ถ้าพนักงานสัก 70% ของบริษัทคิดแบบนี้ อะไรจะเกิดขึ้นกับองค์กรนั้นบ้าง
โดยหลักการแล้ว การขึ้นเงินเดือนนั้น ต้องทำให้พนักงานที่มีผลงานดี รู้สึกดีขึ้นไปอีก และรู้สึกว่า คุ้มค่าที่ได้ทำผลงานที่ดีให้กับบริษัท เพราะได้รับรางวัลที่ดีกลับมา และอยากที่จะสร้างผลงานที่ดีมากขึ้นในปีถัดไป แต่พนักงานในองค์กรส่วนใหญ่กลับรู้สึกกลับกันไปหมด กล่าวคือ พนักงานที่รู้สึกว่ามีความสุข และรู้สึกดีกับการขึ้นเงินเดือน ก็คือ พนักงานที่ไม่ค่อยสร้างผลงาน แต่ได้ขึ้นในอัตราที่ดีเมื่อเทียบกับพนักงานที่ทำผลงานได้ดี ผลก็คือพนักงานกลุ่มนี้จะเรียนรู้ว่า ทำงานแย่ๆ แบบนี้ยังได้ขึ้นเงินเดือนดีเลย แล้วจะทำดีไปทำไม เพราะทำดีแล้วก็ได้ขึ้นไม่ต่างกัน แล้วจะทำดีไปทำไม

ส่วนพนักงานที่ทำงานดีพอรู้แบบนี้ ก็เริ่มลดระดับผลงานของตัวเองลงไปอีก เพราะได้เรียนรู้ว่า ทำงานดีแค่ไหน ก็ได้รับการขึ้นเงินเดือนที่ไม่ต่างกับคนที่ทำงานไม่ดี แล้วจะทำดีไปทำไม

สุดท้ายเงินที่บริษัทให้เป็นรางวัลผลงานแก่พนักงานเพื่อสร้างแรงจูงใจ กลับกลายเป็นให้ไปแล้ว กลับไปลดแรงจูงใจพนักงานลงไปอีกซะงั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น