วันอังคารที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ผู้นำตัวจริง เขามีบทบาทอย่างไร

ผมอ่านเจอกับข้อความหนึ่งที่เกี่ยวกับภาวะผู้นำ ซึ่งถูกใจผมมากเลยทีเดียวครับ ก็เลยนำมาให้อ่านกัน ข้อความนั้นมีอยู่ว่า “Leaders who do not hold their people accountable to a set standard are, in effect, thieves and liars. Thieves because they are stealing from the stockholder who pays them to hold people accountable, and liars because they pretend that everything is OK with their people when in fact everything is not OK.”— James C. Hunter--
ซึ่งขอแปลเป็นไทยแบบง่ายว่า

 “ผู้นำที่ไม่สามารถทำให้พนักงานของเขากำหนดมาตรฐานการทำงานใหม่ๆ และทำงานตามมาตรฐานใหม่ที่สูงขึ้นได้นั้น เป็นผู้นำที่เปรียบเสมือนโจร และจอมโกหก ที่เปรียบเหมือนโจรก็เพราะผู้นำคนนี้ได้ขโมยเงินและเวลาที่ผู้ถือหุ้นจ่ายให้เพื่อให้สร้างผลงานผ่านพนักงานที่ตนดูแลแต่กลับไม่ได้ทำ ที่ว่าเป็นเหมือนจอมโกหกก็เพราะเขาทำเหมือนกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างในการบริหารนั้นดำเนินไปอย่างปกติ ทั้งที่จริงๆ แล้วทุกอย่างนั้นไม่ปกติเลย”

อ่านจบแล้ว เป็นประโยคที่แรงมากทีเดียวครับ ผมเชื่อว่าทำเอาผู้นำหลายๆ คนสะอึกกันไปตามๆ กันเลยทีเดียว

 สิ่งที่ผู้นำจะต้องรับผิดชอบก็คือ การนำพาคนของตนเองไปสู่เป้าหมายที่ได้ตกลงไว้กับทางผู้ถือหุ้น หรือเจ้าของนั่นเอง และการที่จะนำพาคนไปสู่เป้าหมายได้นั้น สิ่งที่ผู้นำจะต้องทำก็คือ การกำหนดเป้าหมายที่ท้าทาย และทำให้พนักงานทุกคนมองเห็นเป้าหมายนั้น และสร้างพลังให้กับพนักงานเพื่อให้มีแรงจูงใจในการสร้าผลงานตามที่คาดหวังไว้ ดังนั้นผู้นำที่แท้จริงจะต้องตั้งมาตรฐาน และเป้าหมายที่สูงขึ้นอยู่เสมอ ไม่ใช่ตั้งเป้าหมายที่ทำได้อยู่แล้ว และทำหน้าที่รักษาสภาพให้คงเดิม แบบหลังนี้เขาไม่ได้เรียกกว่าผู้นำแน่นอนครับ เพราะอย่างหลังนี้พนักงานธรรมดาๆ คนนึงก็สามารถทำได้ โดยไม่จำเป็นต้องไปจ้างผู้นำมาทำอะไรเลย การที่บริษัทจ้างผู้นำเข้ามา ก็เพื่อที่จะผลักดันสิ่งที่ยังไม่เคยเกิดให้เกิดขึ้น และทำให้เกิดมาตรฐาน และเป้าหมายในการทำงานใหม่ๆ นั่นเอง

การที่ท่านบริหารงานไปตามมาตรฐานเดิมๆ แบบนี้เขาเรียกว่าผู้จัดการเท่านั้น การจะเป็นผู้นำต้องสร้างมาตรฐานใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นให้ได้ในการทำงาน สิ่งที่ยากตามมาก็คือ ในการสร้างมาตรฐาน และเป้าหมายใหม่ๆ ให้สูงขึ้นเรื่อยๆ นั้น ผู้นำจำเป็นที่จะต้องได้รับความร่วมมือจากพนักงานในองค์กร นี่คือหน้าที่และความรับผิดชอบของคนที่เป็นผู้นำที่จะต้องสร้างความเชื่อมั่น และทำให้พนักงานทุกคนยอมทำตามมาตรฐานและเป้าหมายใหม่ แล้วผู้นำจะทำอย่างไรให้พนักงานเข้ามามีส่วนร่วมในการยกมาตรฐานและเป้าหมายใหม่ในการทำงาน

  • ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง ผู้นำที่ดีที่จะทำให้พนักงานทุกคนยอมรับมาตรฐานและเป้าหมายใหม่ๆ ที่สูงขึ้นนั้น จะต้องเป็นคนที่เปลี่ยนแปลงตนเองก่อน เพื่อให้พนักงานได้เห็นว่า ผู้นำเอาจริง ไม่ใช่แค่เพียงทำหน้าที่พูดให้ฟังว่าเป้าหมายที่เปลี่ยนไปคืออะไร ยากขึ้นนะ และคาดหวังให้พนักงานทุกคนเปลี่ยนแปลง แต่สุดท้ายตัวผู้นำเองที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงอะไรเลย ถ้าเป็นแบบนี้เป้าหมายใหม่จะง่ายแค่ไหน ก็ไปไม่ถึงครับ
  • สื่อสารอย่างสม่ำเสมอ เรื่องนี้แม้จะดูว่าเป็นเรื่องง่ายๆ แต่เชื่อมั้ยครับ องค์กรส่วนใหญ่กับมีปัญหาในเรื่องของการสื่อสารกันภายในองค์กร พนักงานไม่เคยรู้เลยว่า องค์กรมีเป้าหมายอะไร เพราะผู้นำไม่เคยบอกอะไรเลย มีเพียงพูดอยู่ในห้องประชุมกับผู้ถือหุ้น แล้วก็จบ จากนั้นก็คิดเอง หวังเองว่าพนักงานจะทำตามที่คุยกันในห้องประชุม โดยที่ไม่ได้บอกอะไรพนักงานสักคำ หรือบางคนก็บอกพนักงานว่ามีเป้าหมายอะไรโดยบอกแค่เพียงวันเดียวก็คือวันเริ่มต้นของปีใหม่ จากนั้นก็ไม่เคยพูดอะไรอีกเลย ผมว่าแบบนี้พนักงานเองก็จะเข้าใจเอาเองว่าผู้บริหารก็มาพูดไปงั้นๆ เป็นพิธี ไม่ได้จริงจังอะไร สุดท้ายพนักงานก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในการทำงานเช่นกัน
  • พัฒนาพนักงาน เมื่อไหร่ที่ผู้นำตั้งเป้าหมายใหม่ และยกมาตรฐานในการทำงานใหม่ที่ยากขึ้นกว่าเดิม สิ่งที่จะต้องทำต่อก็คือ การพัฒนาคนให้พร้อมที่จะทำงานตามมาตรฐานใหม่นั้นด้วย ไม่ใช่ยกเป้าหมาย ยกมาตรฐาน จากนั้นก็ปล่อยให้พนักงานใช้ความรู้เดิมๆ ในการทำงาน คำถามก็คือ มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่จะเกิดผลสำเร็จตามที่ผู้นำต้องการ ที่เกิดขึ้นจริงก็มีเยอะนะครับ เช่นกำหนดเป้าหมายที่องค์กรจะต้องไปแบบว่าไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย แต่ตัดงบประมาณการพัฒนาคนออกหมด ผมสงสัยว่า ความรู้เดิมๆ ในอดีตนั้นจะเพียงพอที่จะสร้างสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นนี้ได้สักแค่ไหน คำตอบก็คือ ยากมากครับ
  • ประเมินผล และเป็นพี่เลี้ยง ผู้จำจะต้องคอยสังเกตพนักงานของตนเองว่า ทำงานกันแบบไหน และจะต้องมีการประเมินผลกันตลอดเวลา ว่าเป็นอย่างไรบ้าง แผนงานที่ทำนั้นมีจุดอ่อน จุดแข็งอย่างไร หมั่นพูดคุยกับพนักงานบ่อยๆ บอกถึงความคืบหน้าของแผนงานที่เราทำร่วมกัน และช่วยพนักงานที่ยังมีอุปสรรคในการทำงานให้ผ่านพ้นอุปสรรคนั้นไปได้ด้วยดี ทั้งนี้ก็เพื่อให้งานออกมาได้ตามแผนที่กำหนดไว้นั่นเองครับ การที่เราปล่อยให้พนักงานทำงานไปตามยถากรรม โดยที่ผู้นำไม่เคยบอกอะไรเลยนั้น จะทำให้พนักงานเข้าใจผิดว่า สิ่งที่ตนเองทำนั้นเป็นสิ่งที่ถูกแล้ว ทั้งๆ ที่อาจจะผิดก็ได้ แต่ผู้นำไม่บอก พนักงานก็เลยคิดเอาเองว่าถูกต้อง ผลสุดท้ายก็ต้องมานั่งแก้ไขกันเมื่อเวลาล่วงเลยไป
4 วิธีนี้ไม่ได้เป็นสิ่งที่ยากเกินความสามารถของทุกคน เพียงแต่เราไม่ค่อยอยากจะทำเท่านั้น การที่เราจะไปสู่อนาคตและเป้าหมายใหม่ๆ ที่ดีขึ้นนั้น ผู้นำจะต้องสร้างความร่วมมือจากพนักงานให้ได้ มิฉะนั้นแล้วก็เหมือนกับว่าผู้นำทำงานคนเดียว ผลสำเร็จย่อมไม่เกิดแน่นอนครับ ผมเองก็ไม่อยากถูกกล่าวหาว่าเป็นโจรกับจอมโกหกเหมือนกันครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น