วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

นิทานสอนใจ: จน หรือ รวย


ความจน กับ ความรวย เราวัดกันที่อะไร เงิน ตำแหน่งหน้าที่ บ้าน รถ ที่ดิน ฯลฯ ชีวิตเราทุกวันนี้เรามักจะมองกันไปที่เงิน ซึ่งเงินมันก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เงิน มันใช่ทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิตหรือไม่ วันนี้ผมเอานิทานอีกเรื่องหนึ่งมาถ่ายทอดให้อ่านกัน เท่าที่พยายามหาแหล่งที่มาของนิทานเรื่องนี้ ก็ยังหาไม่เจอว่าเป็นใครเขียน ถ้าท่านผู้อ่านท่านไหนทราบ ก็แจ้งมาได้นะครับ ผมจะได้ให้เครดิตกับผู้เขียนนิทานเรื่องนี้ครับ เรื่องราวมีอยู่ว่า....


อภิมหาเศรษฐีเกือบจะชราผู้หนึ่ง สุดแสนจะภูมิใจ ที่ลูกชายวันห้าขวบของเขา กำลังจะได้เข้าเรียนในโรงเรียนชื่อดัง ซึ่งระดับเศรษฐีอย่างพวกเขาเท่านั้น จึงจะมีปัญญาส่งลูกหลานเข้าเรียนในโรงเรียนนี้ได้
โดยส่วนตัวของเขาเอง ก็อยากจะสอนให้ลูกชายรู้จักกับชีวิตจริงในโลก ควบคู่ไปกับการสอนทฤษฏีในโรงเรียน

ในวันหยุดเขาจะตระเวนพาลูกชายคนเดียว ไปท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ

แล้ววันหนึ่งเขาก็คิดถึงหัวข้อการสอนเรื่อง "ความยากจน"

เพราะเขามีความเชื่อว่า ลูกชายของเขาคงไม่มีวันรู้จักแน่นอน

เขาจึงพาลูกชายไปเยี่ยมครอบครัวชาวนายากจนครอบครัวหนึ่ง และพักอยู่กับครอบครัวชาวนาเป็นเวลา 1 วัน 1 คืน เมื่อกลับถึงคฤหาสน์ของเขาในวันต่อมา มหาเศรษฐีก็จะทดสอบว่าลูกชายได้เรียนรู้อะไรบ้าง จากการไปพักแรมกับชาวนาผู้ยากจน

ลูกชายตอบคำถามผู้เป็นบิดาว่า เขาขอขอบคุณเป็นอย่างมาก ที่ได้พาเขาไปพบกับชาวนาและพักแรมที่นั่น ซึ่งทำให้เขาได้พบว่า….

….ชาวนามีที่ทำงานเป็นท้องนาที่กว้างใหญ่
ในขณะที่พ่อมีเพียงห้องสี่เหลี่ยมที่ว่ากว้าง แต่ก็ยังกว้างน้อยกว่าท้องนาที่ทำงานของชาวนา

….อาหารที่ชาวนารับประทาน สามารถหาได้ตลอดเวลารอบๆ บริเวณบ้านโดยไม่ต้องซื้อหา
ในขณะที่บ้านของเรามีตู้เย็นเท่านั้นที่เป็นที่เก็บอาหาร

…….เวลารับประทานอาหารก็มีเพื่อนคุยอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูก
ในขณะที่ตัวเองก็ต้องนั่งทานอาหารกับโต๊ะอาหาร ที่ยาวเกือบสิบเมตร และมีเก้าอี้ว่างเปล่าทั้งสองด้าน

……ลูกชาวนาที่ซ้อนท้ายจักรยานของพ่อเขา ต้องกอดเอวพ่อให้แน่นเพื่อจะได้ไม่ตกจากจักรยาน
แต่เขาเองต้องนั่งในรถที่ใหญ่โตอยู่ข้างหลังเพียงลำพัง โดยมีคนขับรถพาไปทุกที่

………ชาวนามีแสงดาวแสงจันทร์เป็นโคมไฟส่องสว่างตลอดเวลาในเวลากลางคืน โดยไม่ขาดแคลน
แต่เขาก็มีเพียงแสงจากโคมไฟที่ต้องซื้อด้วยเงิน

……..ชาวนามีรั้วบ้านเป็นแม่น้ำ ภูเขาที่กว้างสุดลูกหูลูกตา
แต่เขาเองกลับมีเพียงแค่กำแพงบล๊อคในพื้นที่ไม่กี่ไร่

………ลูกชาวนาได้มีเพื่อนเล่นเป็นจิ้งหรีด หิ่งห้อยนับร้อยนับพัน
แต่เขาเองกลับไม่มีใครเลย

ผู้เป็นพ่อฟังแล้วเงียบงัน ลูกชายสบตาพ่อเต็มตา แล้วบอกว่า

“ขอบคุณมากครับพ่อ ที่ช่วยให้ผมได้สำนึกว่า เราจนขนาดไหน”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น