วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

การบริหารคนด้วยระบบอาวุโสมากเกินไปจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

Business people standing with question mark on boards

ในประเทศไทย เรื่องของระบบอาวุโสในการบริหารคนนั้น ยังคงตัดไม่ขาด ไม่ว่าองค์กรนั้นจะมีการปรับปรุงระบบการบริหารคนให้มีความยุติธรรมตามผลงาน แล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงมีเรื่องของอาวุโสปะปนอยู่บ้าง แต่ในบางองค์กรนั้น เรื่องของระบบอาวุโสกับการบริหารคนนั้น เป็นอะไรที่แยกกันไม่ออกเลย ทุกสิ่งทุกอย่างบริหารด้วยระบบอาวุโสกันไปหมด โดยไม่ดูเรื่องของหน้าที่และความรับผิดชอบ ไม่ดูเรื่องของผลงานเลย ถ้าเราบริหารคนด้วยระบบแบบนี้ไปนานๆ เข้า อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง

  • ผลงานโดยเฉลี่ยของพนักงานจะค่อยๆ แย่ลงไปเรื่อยๆ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนมาก สำหรับองค์กรที่บริหารคนโดยไม่ดูผลงานกันจริงๆ มีการประเมินผลงานทุกปี แต่ไม่เคยพิจารณาผลงานพนักงานเลย แต่กลับเอาเรื่องของอายุงาน และความอาวุโสมาพิจารณาเป็นหลักแทน เมื่อเป็นแบบนี้ไปนานๆ เข้า พนักงานใหม่ ที่เพิ่งเข้ามา โดยปกติ ก็จะเป็นคนที่มีไฟในการทำงาน พอตะลุยทำงานจนผลงานออกมาดี แต่กลับไม่ได้รางวัลผลงานที่ดี ด้วยเหตุผลว่า อายุงานน้อยกว่า เมื่อเป็นแบบนี้ จะมีพนักงานคนไหนที่อยากจะสร้างผลงานที่ดีต่อไปบ้าง ผลงานของพนักงานจะแย่ลง หรือทรงๆ ไม่มีอะไรโดดเด่น ก็เลยส่งผลให้ผลงานในภาพรวมขององค์กรก็จะค่อยๆ แย่ลงไปเรื่อยๆ ด้วยเช่นกัน
  • ความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ น้อยลงไปเรื่อยๆ อีกประเด็นที่มักจะเกิดขึ้นกับองค์กรที่บริหารคนโดยเน้นอาวุโสเป็นหลักก็คือ เรื่องของ ความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ในการทำงานก็จะลดน้อยถอยลงไปเรื่อยๆ ไม่ค่อยมีใครอยากที่จะคิดอะไร อยู่กันมานาน ทำยังไงก็ทำอยู่อย่างนั้น ผมเคยเห็นบางองค์กรยังคงทำงานด้วยระบบ manual ในบางเรื่อง ก็ยังคงทำอยู่แบบนั้น ทั้งๆ ที่เกือบทุกองค์กรเขาเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานไปหมดแล้ว ที่นี่ก็ยังคงทำด้วยระบบเดิมตั้งแต่สมัยตั้งองค์กรใหม่ๆ
  • ต่อต้านการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ระบบ อาวุโสในองค์กรนั้น จะมีผลทำให้คนในองค์กรพยายามรักษาสถานภาพเดิมๆ ไว้ เวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ก็มักจะต่อต้าน เพราะรู้สึกว่า การเปลี่ยนแปลงนั้นจะทำให้มีผลกระทบกับสถานภาพของเขาเอง ไม่ว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นจะเกิดผลดีตามมาก็ตาม ก็ไม่สนใจ เพราะไม่อยากให้สถานภาพของตนเองต้องมากระทบ พอเป็นแบบนี้ องค์กรก็เลยการเป็นองค์กรที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย หรือบางองค์กรเป็นแบบมีการเอาเครื่องมือต่างๆ ในการบริหารเข้ามา เอาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามา แต่กลับไม่มีการใช้งานอย่างจริงจัง เพราะพนักงานยึดติดกับสิ่งเก่าๆ สุดท้ายก็กลายเป็นองค์กรที่มีเครื่องมือการบริหารงานเต็มไปหมด แต่ไม่สามารถนำไปใช้งานได้จริงสักอย่าง เพราะพนักงานต่อต้านไปหมดทุกอย่าง
  • เกิดทัศนคติว่าตนเองเก่ง เพราะอยู่นาน ทัศนคติแบบนี้เกิดขึ้นเพราะว่าองค์กรให้ความสำคัญกับอายุงาน และคนที่มีอาวุโส โดยไม่สนใจว่าพนักงานคนนั้นจะเก่งจริงๆ หรือไม่ก็ตาม พนักงานที่มีอายุงานมากๆ ก็จะคิดไปเองว่า ที่องค์กรให้ความสำคัญกับเขาก็เพราะเขาอยู่มานาน และคิดว่าตนเองเป็นคนเก่งที่องค์กรขาดไม่ได้ พอคิดแบบนี้ไปนานๆ เข้า แก้วน้ำก็เริ่มเต็มไปด้วยน้ำเก่าๆ ที่ไม่สามารถเทออกได้เลย พอเทออกไม่ได้ ก็เติมของใหม่เข้าไปไม่ได้เช่นกัน เลยกลายเป็นคนที่ไม่ค่อยอยากจะพัฒนาตนเองสักเท่าไหร่ เพราะคิดว่าที่ตนเองรู้อยู่นั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว ทัศนคติแบบนี้ทำให้หลายองค์กรต้องเจ๊งไปก็มากมายครับ
  • ผู้น้อยที่เก่งๆ จะค่อยๆ ถูกระบบกลืนไปจนหมด พนักงาน ที่เข้ามาทำงานใหม่ๆ ซึ่งเป็นคนที่มีอาวุโสในการทำงานน้อยๆ นั้น เวลาที่เสนอความคิดเห็น หรือแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างออกไปจากผู้อาวุโส ก็จะถูกมองว่าเป็นพวกคิดไม่เหมือนคนอื่น และมักจะถูกต่อต้านและกันออกจากกลุ่ม แม้ว่าความคิดเห็นนั้นจะเป็นความคิดเห็นที่ดีมากก็ตาม มักจะถูกผู้อาวุโสใช้เหตุผลว่า “ฉันอาบน้ำร้อนมาก่อน เด็กๆ อย่างพวกคุณจะมารู้อะไร” เจอเข้าไปแบบนี้ ความคิดเห็นใหม่ๆ ก็หดหาย คนที่เป็นผู้น้อยที่มีฝีมือ มีความคิดดีๆ ก็จะเริ่มไม่คิดอะไร บางคนทนไม่ไหวก็ลาออกไป
สิ่งเหล่านี้คือประเด็นหลักๆ ที่เกิดขึ้นกับองค์กรที่เกิดขึ้นมานานมากๆ และเป็นองค์กรที่เน้นการบริหารจัดการไปที่ระบบอาวุโสมากจนเกินไป โดยไม่ดูผลงานของพนักงานเลย สุดท้ายสภาพขององค์กรจะเป็นอย่างไร ก็น่าจะพอเดากันได้นะครับ

แล้วองค์กรของท่านเน้นระบบอาวุโสกันมากเกินไปหรือไม่ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น