ตามปรัชญาเซนมี เรื่องเล่าเกี่ยวกับเวลาที่น่าสนใจเรื่องหนึ่ง กล่าวถึงชายหนุ่มคนหนึ่ง ผู้ที่มีนิสัยใจเร็วด่วนได้ ไม่ว่าจะกระทำสิ่งใดล้วนไม่สามารถสงบจิตสงบใจ เพราะต้องการเร่งรัดให้ทุกสิ่งเป็นไปดั่งใจตน ครั้งหนึ่ง เขานัดพบคนรักที่ใต้ต้นไม้ แต่ทว่ามาก่อนเวลานัดมากเกินไป ด้วยนิสัยใจร้อนไม่ชอบรอทำให้เดินวนไปวนมา กระสับกระส่ายอยู่ใต้ต้นไม้แห่งนั้น
ยามนั้นเอง ปรากฏอาจารย์เซนซึ่งแท้จริงแล้วเป็นเซียนวิเศษผู้หนึ่ง เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มผู้นั้น พร้อมทั้งยื่นวัตถุทรงกลมชิ้นหนึ่งให้ พลางกล่าวว่า
"นี่เป็นของวิเศษ หากเจ้าไม่ชอบการรอคอย ก็จงหมุนปุ่มนี้ไปทางขวาหนึ่งรอบ เจ้าก็สามารถที่จะย่นระยะเวลาจากความเป็นจริงให้เร็วขึ้นไปตามที่เจ้าต้องการ"
เมื่อชายหนุ่มได้ฟังดังนั้น ยังคงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่เมื่อเขาลองหมุนปุ่มไปตามคำบอก พลันคนรักของเขาก็ปรากฏกายขึ้น ทั้งยังส่งสายตาหวานซึ้งให้กับเขา ในใจชายหนุ่มบังเกิดความอยากครอบครองจึงคิดว่าหากเร่งเวลาไปจนทั้งสองแต่ง งานกันได้คงดียิ่ง จากนั้นหมุนปุ่มไปอีกรอบหนึ่ง ก็พลันพบว่าตนเองกลายเป็นเจ้าบ่าวอยู่ในงานแต่งงานอันเลิศหรูอลังการ ส่วนคนรักของเขาอยู่ในชุดเจ้าสาวงดงามรายรอบไปด้วยแขกเหรื่อมากมาย จากนั้นชายหนุ่มจึงคิดอยากใช้เวลาอยู่กับเจ้าสาวของเขาในห้องหอตามลำพังจึง ได้หมุนปุ่มวนไปด้านขวาอีกครั้ง
หลังจากนั้น ชายหนุ่มก็ยังคงหมุนปุ่มวิเศษไปเรื่อยๆ ไปถึงตอนที่เขามีบุตรชาย กระทั่งมีหลานชาย ทั้งยังมิใช่เพียงคนเดียวแต่มีบุตรหลานเต็มบ้าน กระทั่งบุตรหลานสร้างเนื้อสร้างตัวกลายเป็นขุนนางใหญ่ไปปกครองทั่วทุกสารทิศ ผู้คนต่างพากันเคารพนับถือ...ถึงตอนนี้ ในใจชายหนุ่มเต็มไปด้วยความปีติยินดี
จากนั้นเมื่อ หมุนปุ่มอีกรอบ ชายหนุ่มกลับกลายเป็นเฒ่าชรา โรคร้ายรุมเร้านอนรอความตายอยู่บนเตียง บรรดาบุตรหลานอกตัญญูบางส่วนพากันมาขนทรัพย์สินภายในบ้านออกไปจนเกลี้ยง ทั้งยังใจดำอำมหิตนำเฒ่าชราไปทิ้งยังชายป่า ชายที่ตอนนี้ทั้งชราทั้งป่วยไข้อดอยากหิวโหย ค่อยๆ อ่อนแรงลง ลมหายใจขาดช่วง ก้าวเข้าสู่ความตายทีละน้อย...ถึงตอนนี้ ชายหนุ่มแตกตื่นตกใจจนขนหัวลุก หยาดเหงื่อไหลโทรมกาย
"เป็นอย่างไรบ้าง?" เสียงอาจารย์เซนดังขึ้น "พ่อหนุ่ม ท่านยังอยากให้เวลาหมุนไปอย่างรวดเร็วอยู่หรือไม่?"
"ข้าจวนจะจบชีวิตแล้ว ยังจะต้องการให้เวลาหมุนไปเร็วอันใดอีกเล่า" ชายหนุ่มตอบอย่างทอดอาลัย
อาจารย์เซนจึงรับของวิเศษจากมือของชายหนุ่มกลับคืนมา พลันทุกสิ่งล้วนกลับคืนสู่สภาพเดิม พาชายหนุ่มย้อนกลับไปตอนที่เขายังคงยืนรอคนรักอยู่ที่ใต้ต้นไม้ ในยามนั้น ชายหนุ่มจึงค่อยสัมผัสถึงความอบอุ่นของแสงแดดที่สาดส่องลงมา สดับเสียงร้องอันไพเราะของนกน้อย มองเห็นผีเสื้อโผบินเหนือมวลดอกไม้
เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มรู้สึกว่า การรอคอยอะไรบางอย่างนั้น ถือเป็นความสุขที่หอมหวานประการหนึ่ง
อ่านนิทานเรื่องนี้จบ รู้สึกอย่างไรกันบ้างครับ
สิ่งที่นิทานเรื่องนี้ต้องการจะบอกก็คือ ถ้าเราต้องการอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงาน ความสำเร็จ ความรัก ครอบครัว ฯลฯ ทุกสิ่งที่เราต้องการนั้นล้วนแต่ต้องอาศัยเวลาในการสร้าง และทำมันขึ้นมา บางอย่างอาจจะต้องใช้เวลามาก บางอย่างอาจจะใช้เวลาน้อยกว่า แต่สุดท้ายแล้ว เราก็ต้องรู้จักที่จะรอเวลาที่เหมาะสม
ถ้าเราใจร้อน คิดอยากได้นั่นอยากได้นี่แบบเร็วๆ โดยไม่สนใจว่าวิธีการที่จะได้มันมานั้นจะเป็นวิธีใดก็ตาม ผลก็คือ เราอาจจะไม่ได้สิ่งนั้นตามที่เราต้องการก็ได้ เพราะมันยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม
นอกจากนั้น ในช่วงเวลาทุกช่วงของชีวิตเรานั้น ไม่ว่าจะเป็นเวลาทำงาน เวลารอ ทุกช่วงเวลาล้วนเต็มไปด้วยสิ่งที่จะให้เราได้เรียนรู้ตลอดเวลา และเต็มไปด้วยความสุขที่รอเรามาพบมาเจอมันอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน
ดังนั้นจงใช้เวลาทุกช่วงในการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ดื่มด่ำกับความสุขเล็กๆ รอบตัวเราในระหว่างที่เรากำลังรออะไรบางอย่าง แล้วความสุขก็จะเกิดขึ้นตลอดเวลา ไม่ใช่เกิดขึ้นตอนที่เราได้ในสิ่งที่เราต้องการเท่านั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น