มนุษย์เงินเดือนทุกคนต่างก็ใฝ่ฝันถึงองค์กร หรือบริษัทที่ดี ที่ทำงานแล้วมีความสุข มีแต่สิ่งที่ดีๆ เกิดขึ้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นความฝันที่ไม่เกินจากความเป็นจริงๆนัก เพราะในยุคนี้เรื่องของ Employee Engagement เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่แทบจะทุกองค์กรต่างก็พูดถึงกัน ในมุมที่ว่าจะทำอย่างไรที่จะทำให้พนักงานของตนเองรู้สึกมีแรงจูงใจในการทำ งาน มีความผูกพันต่อองค์กรสูงๆ เติบโตกันไปพร้อมกับองค์กร
สิ่งที่น่าสนใจก็คือเราต่างก็รู้กันมากว่า 150 ปีแล้วว่า พนักงานที่ทำงานด้วยความสนุก และมีความสุขนั้น จะสามารถสร้างผลงาน และสร้าง Productivity ได้มากกว่า ดีกว่า พนักงานที่ไม่มีความรู้สึกสนุกไปกับงานที่ทำเลย ซึ่งนักจิตวิทยาหลายคน ต่างก็ทำการวิจัยกันมากมายว่า อะไรที่ทำให้พนักงานมีแรงจูงใจ และทุ่มเททำงานให้กับองค์กรทั้งๆ ที่เขาก็ไม่ใช่เจ้าของ แต่กลับทำงานเหมือนกับว่าตนเองเป็นเจ้าขององค์กรด้วยซ้ำไป ผลก็คือออกมาไม่แตกต่างกัน ก็คือ พนักงานคนนั้นจะต้องมีความรู้สึกถึงความผูกพันที่มีต่อองค์กร ทำงานอย่างสบายใจ และมีความสุข
จากหนังสือใหม่ที่มีชื่อว่า Why should anyone work here? ซึ่งเขียนโดย Rob Goffee และ Gareth Jones ได้พยายามหาคำตอบว่า องค์กรแบบไหนกันแน่ที่พนักงานอยากทำงานด้วย และยังอยากจะแนะนำให้คนอื่นมาทำงานด้วย องค์กรแบบไหนที่เราทุกคนควรจะไปทำงานที่นั่น ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นองค์กรแห่งความฝัน ซึ่งผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ได้ใช้คำว่า DREAMS สะท้อนคำตอบของพนักงานส่วนใหญ่ แล้วองค์กรในฝันที่พนักงานอยากทำงานด้วย มีองค์ประกอบอะไรบ้าง มาดูกันครับ
- D=Difference พนักงานตอบว่า “ฉัน อยากทำงานกับองค์กรที่ ฉันสามารถเป็นตัวฉันเองได้ ฉันสามารถแสดงความสามารถของตนเองได้อย่างเต็มที่ เป็นองค์กรที่ฉันสามารถแสดงความแตกต่างที่เป็นสิ่งที่ดีให้เห็น และนำไปใช้ประโยชน์ต่อการทำงาน ช่วยให้องค์กรประสบความสำเร็จได้” สรุปได้ว่า พนักงานอยากทำงานกับองค์กรที่เปิดรับความแตกต่างได้ดี พนักงานสามารถแสดงความสามารถ แสดงความแตกต่างได้ โดยไม่แตกแยกจากกลุ่ม มีหลายองค์กรในบ้านเราที่เมื่อไหร่พนักงานแสดงความแตกต่างให้เห็น (แตกต่างที่ดีนะครับ) กลับกลายเป็นว่าพนักงานคนนั้นกลายเป็นถูกแปลกแยกออกไปทันที
- R = Radical Honesty “ฉันอยากรู้ว่าขณะนี้มันเกิดอะไรขึ้นบ้างในองค์กรที่ฉันทำงานอยู่ด้วย” พนักงานต้องการที่จะรับทราบถึงข้อมูลความเป็นไปต่างๆ ของบริษัท และต้องเป็นข้อมูลที่เป็นความจริงด้วย ไม่ใช่มาปิดบังกัน ไม่บอกกัน ไม่เปิดเผยกัน แต่กลับมาคาดหวังกันว่า ให้พนักงานทำงานให้ดี เวลามีอะไรต้องเปิดเผยต่อบริษัทด้วย แบบนี้พนักงานเองก็ไม่อยากจะทำงานด้วยเช่นกัน
- E = Extra Value “ฉัน อยากทำงานกับองค์กรที่สามารถดึงเอาจุดแข็งของฉันออกมาได้ ใช้จุดแข็งของฉันให้เป็นประโยชน์ รวมทั้งหาทางพัฒนา และสร้างมูลค่าเพิ่มจากจุดแข็งที่ฉันมี ให้มันดีขึ้นไปอีก” พนักงานต้องการได้รับการพัฒนา ซึ่งก็อยากให้องค์กรมองในจุดแข็งที่ตนเองมีอยู่และต่อยอดออกไป เพื่อที่จะได้สร้างมูลค่าเพิ่มทั้งในการพัฒนาตัวพนักงานเอง และในการพัฒนาผลงานขององค์กรด้วย
- A = Authenticity “ฉันอยากทำงานกับองค์กรที่ฉันรู้สึกภาคภูมิใจ เป็นองค์กรที่มีจุดยืน และยืนหยัดในสิ่งที่ทำอย่างชัดเจน” นั่นก็คือ องค์กรจะต้องมีจุดยืนที่ชัดเจน มีเป้าหมาย มีความสำเร็จตามเป้าหมายที่ทำให้พนักงานรู้สึกว่านี่คือองค์กรที่เป็นของ จริงสำหรับเขา ซึ่งจะทำให้พนักงานรู้สึกภาคภูมิใจในการที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งขององค์กรด้วย
- M = Meaning “ฉันอยากให้การทำงานทุกวันของฉัน มันเป็นงานที่มีความหมาย” พนักงานต้องการที่จะมีคุณค่าต่อองค์กร ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จขององค์กร ต้องการที่จะรู้ว่า ตนเองมีคุณค่าต่อองค์กรในแง่ใดบ้าง ดังนั้นองค์กรก็คงต้องมีการสื่อสาร มีการ Feedback บอกถึงความคืบหน้าของงาน ความสำเร็จของงานของพนักงาน ว่าพนักงานมีคุณค่าต่อองค์กรเพียงใด ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งในระดับใดก็ตาม
- S = Simple Rules “ฉันไม่ต้องการกฎระเบียบที่มีความซับซ้อน และปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม เช่นมีพนักงานบางกลุ่มบังคับใช้ บางกลุ่มไม่บังคับใช้” สิ่งที่พนักงานต้องการก็คือ กฎระเบียบที่เข้าใจง่าย มีความเป็นธรรม และสามารถอธิบายได้อย่างโปร่งใส ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่สองมาตรฐาน
แล้วองค์กรของเราก็อาจจะกลายเป็นองค์กรในฝันที่หลายๆ คนอยากเข้ามาทำงานด้วยครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น