วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

นิทานสอนใจ รับผิดไม่แพ้

zen เชื่อฟัง

วันนี้ผมเอานิทานสอนใจมาให้อ่านกันอีกเช่นเคยนะครับ เป็นนิทานเซนสั้นๆ ที่ให้ข้อคิดได้ดีอีกเรื่องหนึ่งครับ ลองอ่านกันดูนะครับ ผมนำมาจากโพสของกระเรียนป่า ที่โพสไว้ในบล็อกโอเคเนชั่นครับ


บนเขามีวัดอยู่สองแห่ง พระลูกวัดในวัด ก มักจะทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่เนืองๆ มองผู้อื่นราวกับศัตรู และมองแต่ความผิดพลาดของผู้อื่นเป็นหลัก ชีวิตความเป็นอยู่จึงดูทุกข์ยากมาก มีแต่ความเคร่งเครียด และจับผิดกันอยู่ตลอดเวลา ส่วนพระลูกวัดในวัด ข กลับรักใคร่กลมเกลียวกัน มีแต่รอยยิ้มให้แก่กันและกัน แต่ละวันจะมีแต่ยิ้มแย้มแจ่มใสดูมีความสุขอยู่ตลอดเวลา เจ้าอาวาสวัด ก รู้สึกแปลกใจ จึงไปขอคำชี้แนะจากพระในวัด ข. ว่า

 “พวกท่านทำอย่างไรจึงสามารถรักษาบรรยากาศภายในวัดให้ดูสดชื่นมีความสุขอยู่ตลอดเวลา”

พระลูกวัดตอบว่า “เนื่องจากพวกเราทำความผิดอยู่เป็นนิจ”

ขณะที่เจ้าอาวาสวัด ก.กำลังงุนงงกับคำตอบอยู่นั้น เห็นพระรูปหนึ่งกลับจากข้างนอกเดินผ่านโถงใหญ่ขาดความระมัดระวังลื่นล้มลง พระที่กำลังถูพื้นอยู่นั้นรีบวิ่งเข้ามาพยุงเขาขึ้นมา แล้วพูดว่า “เป็นเพราะผมไม่ดีเอง ถูพื้นเปียกไปหน่อย”

พระที่ยืนอยู่ด้านนอกก็เดินเข้ามาแล้วพูดอย่างเสียใจว่า “เป็นความผิดผมเองที่ไม่ได้บอกกับท่านว่าเขากำลังถูพื้นอยู่”

พระที่ถูกพยุงไว้นั้นรีบพูดขึ้นอย่างรู้สึกผิดว่า “ไม่ ไม่ ต้องโทษผมขาดความระมัดระวังเอง”

เจ้าอาวาสวัด ก.ที่มาขอคำชี้แนะได้เห็นเหตุการณ์นี้แล้วเข้าใจได้ในทันที เขารู้คำตอบแล้ว แล้วท่านล่ะทราบคำตอบหรือไม่ครับว่าทำไมถึงมีความสุขกันตลอดเวลา


อ่านจบแล้วคิดอย่างไรครับ ผมคิดว่าเราสามารถนำเอาเรื่องนี้ไปประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันของเราได้เลย โดยเฉพาะในเรื่องของการทำงานเป็นทีม หรือแม้กระทั่งการพัฒนากระบวนการทำงานที่มีคุณภาพ โดยยึดหลัก Market in ก็คือ ลูกค้าภายใน มองว่าหน่วยงานถัดไปที่เราต้องส่งงานให้เขานั้น คือลูกค้าของเรา ลูกค้าก็ต้องการสิ่งที่ดี สิ่งที่ถูกต้องเสมอ

การมองอย่างนิทานในเรื่องนี้เป็นการทำให้เกิดการพัฒนาและปรับปรุงให้ดีขึ้นเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเดิมซ้ำอีก ดีกว่าการจ้องจับผิดคนอื่น มองว่าคนอื่นผิดอยู่ตลอดเวลา และมองตนเองถูกอยู่เสมอ ถ้าเป็นแบบนี้ นอกจากจะมีแต่ความขัดแย้งแล้ว ยังไม่มีการพัฒนาอะไรให้ดีขึ้นได้เลย

วันนี้ท่านรับผิดแล้วหรือยังครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น