ธุรกิจจะขับเคลื่อนไปได้นั้น ทรัพยากรบุคคลเป็นทรัพยากรอันดับแรกๆ ที่มีความจำเป็นมากในการที่จะทำให้ธุรกิจของเราประสบความสำเร็จได้ ด้วยความเชื่อที่ว่านี้ ปัจจุบัน เรื่องของแนวคิดในการบริหารทรัพยากรบุคคลจึงเป็นเรื่องที่ผู้บริหาร และองค์กรต่างๆ ให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสรรหาคัดเลือก การพัฒนา การบริหารค่าตอบแทนและสวัสดิการ การบริหารผลงาน การสร้างความผูกพันของพนักงานในองค์กร ฯลฯ ระบบ HR เหล่านี้ องค์กรต่างๆ ก็พยายามที่จะสร้างและพัฒนาระบบให้สามารถที่จะดึงดูด รักษา และจูงใจพนักงานในองค์กรได้มากขึ้นเรื่อยๆ
คำถามก็คือ แล้วพนักงานแบบไหนที่องค์กรของคุณต้องการที่จะเก็บรักษา จูงใจ ให้สร้างผลงานอย่างต่อเนื่อง
หลายๆ องค์กรทำระบบ HR ขึ้นมาอย่างดี พยายามที่จะหาวิธีการในการบริหารทรัพยากรบุคคลใหม่ๆ ที่ทันสมัยเข้ามาประยุกต์ใช้ เพื่อที่จะดึงดูด เก็บรักษา และจูงใจพนักงาน แต่กลับกลายเป็นการดึงดูด รักษา และจูงใจพนักงานที่ไม่ใช่เป้าหมายขององค์กรเลย กล่าวคือ คนที่เราต้องการให้อยู่ กับไม่อยู่ แต่คนที่เราต้องการให้ไปกลับอยู่
ดังนั้นสิ่งที่องค์กรจะต้องพิจารณาก็คือ องค์กรของเราต้องการพนักงานแบบไหนให้อยู่ทำงานกับเรา โดยปกติลักษณะของพนักงานหลักๆ แล้วจะมีอยู่ไม่กี่รูปแบบ อ้างอิงจากบทความของ Lou Adler ที่เขียนลงใน INC.com ที่ได้มีการแบ่งลักษณะของพนักงานออกเป็น 4 แบบ คือ Thinker, Builder, Improver, Producer โดยต้องพิจารณาจากช่วงอายุขององค์กรว่า ในช่วง Life Cycle ขององค์กรในแต่ละช่วง ก็จะอาศัยพนักงานที่แตกต่างกันออกไป ลองมาดูรายละเอียดครับ
- Thinkers พนักงาน ลักษณะนี้ก็คือ กลุ่มนักคิด มีความคิดใหม่ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา คิดกลยุทธ์ขององค์กรว่าจะต้องดำเนินไปทางไหนดี พนักงานกลุ่มนี้จะเหมาะกับองค์กรในช่วงแรกๆ ที่เพิ่งตั้งองค์กรใหม่ๆ ต้องการคนที่มาช่วยคิดและวางแนวทางในการสร้างบริษัท ดังนั้นช่วงแรกๆ จะมีคนกลุ่มนี้เยอะหน่อย
- Builders พนักงาน กลุ่มนี้ก็คือ กลุ่มที่เอาไอเดีย ความคิด และกลยุทธ์ต่างๆ จากกลุ่มแรกมาทำให้เกิดขึ้นจริง จะเป็นคนลงมือสร้างความฝันให้เป็นความจริงให้ได้ กลุ่มนี้ก็จะมีเยอะในช่วงแรกๆ ที่องค์กรเพิ่งมี เพราะการมีนักคิดอย่างเดียวไม่มีนักสร้าง ก็อาจจะทำให้ไม่สามารถทำฝันให้เป็นจริงได้เช่นกัน ก็เลยต้องมีกลุ่มพวก Builder ขึ้นมา
- Improvers พนักงาน กลุ่มนี้จะมีลักษณะก็คือ จะสามารถต่อยอดความคิด หรือต่อยอดจากสิ่งที่ทำไว้ ให้ดีขึ้นได้กว่าเดิม แต่กลุ่มนี้จะไม่สามารถคิดใหม่ได้มากนัก เพราะไม่ใช่พวก Thinker แต่จะเอาสิ่งที่ทำไว้แล้วมาปรับปรุงต่อยอดออกไป เสริม เติม แต่ง ให้มันดูดีขึ้น ดังนั้นพนักงานกลุ่มนี้จะต้องมีในช่วงที่เริ่มต้นคิดอะไรที่เริ่มลงตัวแล้ว และต้องการทำให้สินค้าและบริการของเราพัฒนาต่อยอดไปได้มากกว่าเดิม
- Producers พนักงาน กลุ่มนี้ก็คือ พนักงานที่สร้างผลผลิต สร้างบริการ ตามระบบที่วางไว้ เป็นพนักงานที่ทำงานด้วยขั้นตอนการทำงานแบบเดิมๆ เพื่อทำให้ผลผลิตออกมาได้ตามที่บริษัทกำหนดไว้ พนักงานกลุ่มนี้จะเป็นพนักงานที่อยู่หน้างานทุกวัน สัมผัสกับลูกค้าทุกวัน
- ช่วงเริ่มต้นธุรกิจ ก็ต้องอาศัยพนักงาน 2 กลุ่มแรกเยอะหน่อย ก็คือ พวกนักคิด และนักสร้าง เพื่อที่จะเป็นคนคิด และวางระบบพื้นฐานเริ่มต้นในการทำงานก่อนเลย
- ช่วงที่ธุรกิจเริ่มเติบโต ช่วงนี้ก็ต้องอาศัยนักพัฒนา ต่อยอดสินค้าบริการตัวเดิมของเราให้มีคุณภาพ และบริการที่ดีขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องของลูกค้าได้ และต้องมีพนักงานกลุ่มที่เป็นผู้ผลิตงานกลุ่มใหญ่อีกกลุ่มหนึ่ง เพื่อที่จะลงมือทำงาน สร้างผลผลิตให้ได้ตามเป้าหมายที่เรากำหนดไว้
- ช่วงธุรกิจขาลง เมื่อสินค้าเริ่มอยู่ตัว ขายไม่ค่อยได้แล้ว ถ้าบริษัทต้องการอยู่รอดต่อไป ก็อาจจะต้องหันไปเน้นพนักงานกลุ่มนักคิด และนักสร้างอีกครั้งหนึ่ง เพื่อคิดใหม่ ทำใหม่ทั้งหมด ซึ่งก็จะเป็นการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่อีกครั้ง เพื่อทำให้ธุรกิจของเราเติบโตต่อไปได้อีก
ดังนั้นถ้าองค์กรของเราช่วงนี้เป็นช่วงที่ต้องคิด แต่เรากลับไปจ้างนักทำมา ก็ไปไม่ได้กับเป้าหมายองค์กร หรือถ้าช่วงนี้เราต้องการนักลงมือทำเป็นหลัก แต่ไปเอานักคิดมา องค์กรก็ไปไม่ได้เช่นกัน
การสรรหาคัดเลือกพนักงานเข้ามาทำงานก็คงต้องพิจารณาว่าพนักงานแบบไหนที่เราต้อง การในช่วงเวลานั้นๆ เพื่อให้เข้ามาสร้างผลงานในสิ่งที่องค์กรอย่างได้ในช่วง Life Cycle นั้นๆ ขององค์กรด้วย ไม่ใช่แค่หาตามคุณสมบัติตาม Job Description เท่านั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น