วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

บริษัทระดับโลก มีนโยบายการเก็บรักษาพนักงานกันอย่างไร

ปัจจุบันนี้องค์กรต่างๆ พยายามที่จะหาวิธีการเก็บรักษาพนักงานมือดีไว้ให้ทำงานในองค์กรให้นานที่สุด เพราะเข้าใจและเรียนรู้ได้ว่า พนักงานกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่จะสร้างผลงานที่ดีให้กับองค์กรในระยะยาว แต่พอถึงเวลาที่จะต้องมานั่งคิดหาวิธีการที่จะรักษาพนักงาน บริษัทต่างๆ ก็มักจะคิดไปในเรื่องของค่าจ้างเงินเดือน และสวัสดิการเป็นหลัก ซึ่งจริงๆ แล้วสองปัจจัยดังกล่าวมีผลต่อความผูกพันของพนักงาน และการเก็บรักษาพนักงานน้อยมาก


ถ้าบริษัทของเราต้องการที่จะมีนโยบายการเก็บรักษาพนักงานเก่งๆ ไว้ จะต้องทำอย่างไรบ้าง

ในบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่มีชื่อเสียงนั้น ต่างก็มีวิธีการเก็บรักษาพนักงานมือดีๆ ไว้ ลองมาดูบริษัทที่มีสถิติการลาออกของคนเก่งๆ น้อยกว่าอัตราเฉลี่ยของธุรกิจเดียวกันว่ามีอะไรบ้าง
  • Google บริษัทนี้เป็นบริษัทที่ติดอันดับบริษัทที่น่าทำงานด้วยมากที่สุดจากนิตยสาร Fortune ใน 5 อันดับแรกติดต่อกันมาหลายปีมาก อัตราการลาออกของ Google นั้นอยู่ที่เฉลี่ย 2.7% ซึ่งถือว่าน้อยกว่าอัตราเฉลี่ยของบริษัทในธุรกิจเดียวกันมาก ส่วนใหญ่ที่ทำให้คนเก่งๆ ยังอยากทำงานที่นี่ก็เนื่องมากจากนโยบายที่ให้พนักงานมีความสนุกสนานในการทำ งาน ตัวอย่างนโยบายที่เด่นๆ ก็ได้แก่ ของฟรีในหลายๆ เรื่อง เช่น อาหารฟรี ค่ารักษาพยาบาล ค่าทำฟัน ตัดผมฟรี มีหมอประจำบริษัทเพื่อรักษาพนักงาน ซักอบรีดฟรี และที่เด่นๆ ก็คือ nap pods ก็คือ ให้พนักงานสามารถไปนอนพักผ่อนระหว่างวันทำงานได้ถ้ามีอาการเหนื่อยล้า แล้วค่อยกลับมาทำงานต่อ
  • SAS เป็น อีกบริษัทที่คิดอันดับบริษัทที่น่าทำงานด้วยมากที่สุดของนิตยสาร Fortune เช่นกัน บริษัทนี้มีอัตราการลาออกเฉลี่ยอยู่ที่ 3.7% และไม่เคยไปถึง 5% มาเป็นเวลามากกว่า 10 ปีแล้ว นโยบายการเก็บรักษาพนักงานของที่นี่ก็คล้ายๆ กับทาง Google เช่น ให้ลาป่วยไม่จำกัด มีสถานที่และพี่เลี้ยงเลี้ยงดูลูกพนักงานอย่างดี ค่ารักษาพยาบาลฟรีไปถึงครอบครัว อาหารและเครื่องดื่มฟรี เป็นต้น
แม้ว่าบริษัทเราจะไม่ได้ใหญ่โต เทียบเท่ากับบริษัทข้างต้น ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะไม่สามารถมีนโยบายการเก็บรักษาพนักงานได้ ทุกบริษัทสามารถทำได้เช่นกัน อยู่ที่ว่า บริษัทเราให้ความสำคัญกับการเก็บรักษาพนักงานมือดีเหล่านี้ไว้หรือเปล่า หลายบริษัทบอกว่า ตนเองเป็นเหมือนโรงเรียนที่ฝึกพนักงานให้กับคู่แข่งของตนเองก็มี แปลว่าบริษัทเราไม่สามารถที่จะเก็บรักษาพนักงานที่เราตั้งใจฝึกมาเพื่อที่จะ สร้างผลงานให้กับบริษัท

อย่างไรก็ดี ทุกบริษัทสามารถที่จะเก็บรักษาพนักงานไว้ได้ อยู่ที่ว่าต้องการจะเก็บไว้จริงๆ หรือไม่ จากการศึกษาจากบริษัทระดับโลกถึงนโยบายการเก็บรักษาพนักงานนั้น ส่วนใหญ่จะมีลักษณะ และองค์กรประกอบดังต่อไปนี้
  • สร้างบรรยากาศและวัฒนธรรมในการทำงานที่เน้นผลงาน ที่ให้อิสระในการสร้างผลงานของตนเองอย่างเต็มที่ และเชื่อมระบบผลงานกับระบบการให้รางวัลที่เชื่อมโยงกับผลงานจริงๆ ไม่ใช่ไปเชื่อมกับเรื่องอื่น อาทิ ระบบอาวุโส หรือความรู้สึก สร้างบรรยากาศที่มีความสนุกสนานในการทำงาน และทำให้พนักงานรู้สึกว่าตนเองมีส่วนในความสำเร็จขององค์กรอยู่เสมอ มีการให้ Recognition จากหัวหน้าและผู้บริหารอยู่เสมอ ทำให้พนักงานรู้สึกว่า องค์กรให้ความสำคัญกับเขา หรือพูดง่ายก็คือ ทำให้พนักงานเชื่อถือในองค์กรมากขึ้นเรื่อยๆ
  • ทำให้พนักงานเห็นถึงความก้าวหน้าในสายอาชีพของตนเอง องค์กร ที่สามารถรักษาพนักงานมือดีไว้ได้นั้น จะมีแนวทางในการสร้างสายอาชีพให้กับพนักงาน ทำให้พนักงานรู้สึกว่าตนเองมีโอกาสก้าวหน้าในหน้าที่การงานได้ระหว่างที่ทำ งานที่บริษัท ไม่ใช่เข้ามาแล้วก็ทำงานอยู่แบบเดิมๆ และมองไม่เห็นว่าตนเองจะสามารถเติบโตไปได้อย่างไรบ้าง
  • มีแนวทางในการพัฒนาพนักงานอย่างต่อเนื่อง เมื่อ เราว่าจ้างพนักงานมือดีเข้ามาทำงานได้แล้ว สิ่งที่ต้องมีต่อก็คือ การพัฒนาพนักงานกลุ่มนี้ ให้มีความสามารถเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทใหญ่ๆ ที่รักษาพนักงานไว้ได้ดีๆ นั้น จะมีนโยบายการพัฒนาพนักงานที่ชัดเจนมาก แต่ละตำแหน่งจะต้องถูกพัฒนาอะไรบ้างในแต่ละปี มีการสร้างหลักสูตรในระยะยาว เพื่อทำให้พนักงานมีทักษะและความสามารถมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง องค์กรเหล่านี้จะไม่งกในเรื่องของการพัฒนาพนักงาน แต่จะมองว่า ถ้าเราจริงใจที่จะพัฒนาพนักงาน พนักงานก็จะรู้สึกถึงความทุ่มเทและตั้งใจจริงขององค์กรที่จะทำให้เขาเก่ง ขึ้น พนักงานเองก็จะเกิดความรู้สึกผูกพัน และจะไม่ออกไปไหนง่ายๆ
  • มีการปรับปรุงระบบค่าตอบแทนและสวัสดิการอยู่เสมอ องค์กร ที่รักษาพนักงานได้อย่างดีนั้น จะมีการปรับปรุงระบบค่าตอบแทน และสวัสดิการอยู่เสมอ ไม่ใช่จ่ายสูง แต่เป็นการปรับปรุงให้มีความเหมาะสมและตรงกับความต้องการของพนักงานภายใน บริษัทมากขึ้น จะมีการทำการสำรวจความคิดเห็นของพนักงานอยู่เสมอว่าขณะนี้ต้องการอะไร มีอะไรที่ช่วงนี้เป็นที่นิยม หรือ ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างให้ทันต่อเหตุการณ์ในยุคปัจจุบัน เพื่อทำให้พนักงานรู้สึกว่า องค์กรตั้งใจที่จะให้แต่สิ่งที่ดีๆ แก่พนักงานจริงๆ
  • Work-Life Balance ระบบ ที่ขาดไม่ได้เลยในยุคนี้ ถ้าเราต้องการจะเก็บรักษาพนักงานมือดีไว้ทำงาน ก็คือสิ่งที่เรียกกันว่า Work-Life Balance นั่นเองครับ แต่เรื่องนี้ พนักงานแต่ละคน และในแต่ละองค์กรก็จะมองไม่เหมือนกัน ดังนั้นองค์กรที่ต้องการสร้างระบบนี้ ก็คงต้องสอบถาม และทำสำรวจความคิดเห็นของพนักงานว่าต้องการอะไร อย่างไร ที่จะทำให้การทำงาน และชีวิตส่วนตัวมีความสมดุล
ปัจจัยทั้ง 5 ประการข้างต้นคือ แนวทางในการสร้างระบบ และนโยบายการบริหารทรัพยากรบุคคลของบริษัทให้สามารถที่จะรักษาพนักงานไว้ได้ นั่นเอง

เมื่อเรามีปัจจัยเหล่านี้พร้อม สิ่งที่จะต้องทำต่ออย่างเคร่งครัดก็คือ ระบบการบริหารผลงานที่เน้นผลงานพนักงานจริงๆ ใครทีทำผลงานที่ดี และใครที่ทำผลงานไม่ดี สร้างระบบค่าตอบแทน และวัฒนธรรมองค์กรให้เน้นไปที่เรื่องของการสร้างผลงานที่ดีมากกว่าการอยู่ นานๆ

เพราะมิฉะนั้นแล้ว นโยบายการรักษาพนักงาน จะกลายเป็น การรักษาพนักงานที่ไม่มีคุณค่าไว้ในองค์กรมากกว่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น