วันนี้ก็ยังคงเป็นเรื่องราวของการประเมินผลงานต่อไปอีกนะครับ แต่จะเป็นเรื่องของความคิดเห็นและมุมมองของพนักงานที่มีต่อเรื่องการแจ้งผล งานปลายปีว่าเขารู้สึกอย่างไรกับขั้นตอนนี้ โดยปกติแล้วระบบการประเมินผลงานที่หัวหน้าประเมินลูกน้องเรียบร้อยในปีนั้น ก็จะมีการนัดหมายเพื่อที่จะแจ้ง และบอกกล่าวผลงานแก่พนักงาน โดยที่หัวหน้า หรือผู้จัดการจะต้องเป็นคนบอกเล่า ผลงานทุกอย่าง ทุกปัจจัย เพื่อให้พนักงานได้เห็นภาพผลงานของตนเอง ว่าปีที่ผ่านมานั้นเป็นอย่างไรบ้าง
ในทางปฏิบัติแล้วขั้นตอนการแจ้งผลงาน เป็นขั้นตอนที่ทำให้ทั้งหัวหน้า และลูกน้องมีความรู้สึกที่บอกไม่ถูก เพราะต้องมานั่งเล่าผลงานทั้งในแง่ดี ซึ่งก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่ถ้าผลงานของพนักงานออกมาไม่ค่อยดีนัก หัวหน้าก็จะรู้สึกไม่ค่อยดีสำหรับการที่จะต้องแจ้งผลงานแบบนั้นกับพนักงาน
ในมุมมองของพนักงาน เท่าที่ผมได้เคยสอบถามจากกลุ่มพนักงานที่ทำงานในองค์กรต่างๆ คำตอบที่ออกมานั้น มีความชัดเจนมากกว่า พนักงานส่วนใหญ่ไม่กลัวการประเมินผลงาน ในช่วงหลังๆ พนักงานกลับรู้สึกว่า การประเมินผลงานนั้น เป็นสิ่งที่ดี เพราะทำให้เขารู้ว่า ผลงานของตนเองที่ผ่านมานั้นเป็นอย่างไร มีอะไรที่จะต้องแก้ไขปรับปรุงบ้าง แต่พนักงานจะไม่ค่อย Happy กับการแจ้งผลงานตอนปลายปีมากกว่า ซึ่งจากงานวิจัยของ Globoforce ที่ทำวิจัยเรื่องของความรู้สึกและความคิดเห็นของพนักงานต่อการแจ้งผลงานปลาย ปีออกมาดังต่อไปนี้
- พนักงานรู้สึกว่าขั้นตอนการแจ้งผลงานปีละครั้งนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ได้ผล เสียเวลาในการทำงาน และมันไม่มีประโยชน์ในการพัฒนาผลงานของตนเองเลย ยิ่งไปกว่านั้น การพูดคุยบางครั้ง ก็ไม่ตรงประเด็น ไม่สามารถรู้ได้ว่าตนเองมีผลงานอะไรที่ดี หรืออะไรที่ไม่ดีบ้าง โดย 51% ของพนักงานตอบมาว่า การแจ้งผลงานตอนปลายปีนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและไม่ตรงประเด็นตามผลงานของเขาเอง หัวหน้างานไม่รู้เอาอะไรมาพูด บางคนไม่มีการเก็บข้อมูลอะไรเลย ก็มาพูดๆ ไปให้เสร็จตามหน้าที่ของตนเอง และพนักงานจำนวนถึง 53% บอกเหมือนกันว่า การชี้แจงและแจ้งผลงานปลายปีนั้น ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกมีแรงจูงใจ หรือมีพลังในการทำงานมากขึ้นเลย เพราะเป็นการพูดคุยผลงานกันปีละครั้งเดียวเท่านั้นเอง
- 63% ของพนักงานตอบว่า ขั้นตอนการแจ้งผลปลายปีนั้น ไม่ใช่ตัวบ่งบอกถึงผลงานที่แท้จริงของเขา
- 40% ให้เหตุผลว่า มันเป็นเพียงความเห็นของคนๆ เดียวเท่านั้น
- 30% รู้สึกว่าว่า ขั้นตอนนี้ทำให้เขารู้สึกว่าคุณค่าของตนเองลดลง ขาดแรงจูงใจในการทำงาน
- 22% ตอบว่า มันเป็นการเอาอดีตมาตอกย้ำใน 1 วัน ซึ่งไม่มีประโยชน์อะไร จะย้ำไปทำไม
- พนักงาน อยากได้อะไรจากการแจ้งผลงานบ้าง 70% ของพนักงานตอบว่า อยากให้หัวหน้าช่วยเขาในการพัฒนาผลงานให้ดีขึ้นในปีถัดไป ไม่ใช่แค่บอกว่าอะไรไม่ดีหรืออะไรดี และที่เหลือก็คืออยากได้หัวหน้าช่วยสอน และแก้ไขปัญหาผลงานของเขาให้ดีขึ้นด้วย
จริงๆ สิ่งที่พนักงานให้มุมมองมาก็คือ การแจ้งผลที่เป็นการบอกผลงานของพนักงานนั้น เราทำกันแค่เพียงปีละครั้ง ซึ่งกว่าจะรู้ว่าตัวเองมีผลงานอย่างไรนั้น ต้องรอให้ครบปีก่อน กว่ารู้ว่าตัวเองจะต้องพัฒนาอะไรบ้าง ก็ต้องมานั่งรอช่วงนี้อีกเช่นกัน ซึ่งก็เลยทำให้พนักงานส่วนใหญ่รู้สึกว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรเลย แล้วพนักงานต้องการอะไร
- 71% ของพนักงานตอบว่า เขาต้องการให้หัวหน้าแจ้งและชี้แจงผลงานของเขาในกรณีที่ดี หรือไม่ดี โดยแจ้งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเขาจะได้มีเวลาในการพัฒนาผลงานตัวเองให้ดีขึ้น และสามารถแก้ไขปัญหาผลงานได้ทันเวลา แทนที่จะต้องรอไปอีก 1 ปี เพื่อจะมาแก้ปัญหาบางอย่างเท่านั้น
- 23% บอกว่าต้องการให้หัวหน้าแจ้งผลงานทุกสัปดาห์
- 17% ต้องการให้บอกทุกไตรมาส
เมื่อเห็นงานวิจัย ชิ้นนี้ ผมก็คิดเล่นๆ ว่า ถ้าเป็นอย่างที่เขาวิจัยไว้จริงๆ นั่นก็แปลว่า ระบบการบริหารผลงานที่หัวหน้าจะต้องมีการให้ feedback ลูกน้องอย่างสม่ำเสมอ และต้องมีการสอนงานลูกน้องอยู่อย่างต่อเนื่องนั้น ก็น่าจะเป็นแนวทางที่น่าจะทำให้เกิดประโยชน์ในเรื่องของการพัฒนาผลงานของ พนักงานแต่ละคนอย่างต่อเนื่อง
พนักงานสมัยนี้ต้องการรู้ผลงานของตนเอง ทันที และต้องการที่จะพัฒนาผลงานของตนเองอย่างต่อเนื่อง และรวดเร็วที่สุด ดังนั้น ระบบการแจ้งผลงานปลายปี จึงไม่ควรจะทำแค่ครั้งเดียวตอนปลายปีอีกต่อไป เพราะเท่าที่พิจารณาก็จะเห็นว่า มีประโยชน์ต่อการพัฒนาผลงานของพนักงานน้อยมาก อีกทั้งยังไม่มีประโยชน์ต่อองค์กรเลย เนื่องจากองค์กรจะต้องใช้เวลาถึง 1 ปี กว่าที่พนักงานจะรู้ว่าผลงานของตนเองเป็นอย่างไร และใช้เวลาในการพัฒนาอีก ระบบแบบนี้คงจะตามความเจริญก้าวหน้า และการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันไม่ทันแน่นอนครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น