เชื่อหรือไม่ครับว่า จะมีพนักงานในองค์กรที่มาทำงานแต่เช้า และตั้งใจทำงาน สร้างผลงานที่ดี และอยู่ทำงานในบริษัทจนดึกดื่น โดยที่ไม่สนใจว่า ตนเองจะได้เงินเดือนมากน้อยแค่ไหน หรือจะได้เงินค่าล่วงเวลาสักเท่าไหร่
หรือเชื่อว่า ที่พนักงานทำแบบนี้ ก็เนื่องจากเขาต้องการเงินเดือน และค่าล่วงเวลามากกว่า จึงทำให้เขามาทำงานแต่เช้า และกลับบ้านดึกๆ และยอมทุ่มเททำงานทุกอย่างก็เพื่อเงินเดือนที่เขาควรจะได้เท่านั้น
ท่านเองเชื่อแบบไหน
ผมได้อ่านงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่เขาทำการวิจัยเพื่อที่จะพิสูจน์ว่า ความเชื่อไหนที่เป็นสิ่งที่เป็นความจริงว่า คนเราทำงานเพื่อเงินจริงๆ หรือ หรือว่า จริงๆ แล้วคนเราทำงานก็เพื่อสิ่งอื่น โดยที่เงินเป็นเพียงแค่ปัจจัยหนึ่งที่เป็นผลมาจากการทำงานหนักของตนเอง
งานวิจัยนี้ได้ทำขึ้นกับพนักงานที่ทำงานในองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร จำนวน 4,134 คน จากองค์กรจำนวน 320 องค์กรที่ประเทศอิตาลี ผลปรากฏดังนี้
- พนักงาน ที่ทำงานโดยมีความเชื่อที่ว่า งานทุกอย่างที่ทำนั้น จะต้องได้รับเงินตอบแทนเสมอ ไม่ว่าจะได้รับมอบหมายงานเพิ่มเติมเล็กๆน้อยๆ ก็จะต้องขอเงินเพิ่มอยู่ตลอดเวลา เมื่อเวลาผ่านไป 1 ปี ผลงานที่ออกมากลับทำให้พนักงานกลุ่มนี้ได้รับค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นในอัตราที่ น้อยลงไปเรื่อยๆ
- ส่วน พนักงานอีกกลุ่มหนึ่งที่เชื่อว่า งานที่เขาทำนั้น เขาทำไปเพราะเขารักในงานที่ทำ และตั้งใจทำงานอย่างดีที่สุด ก็เพื่อให้เกิดผลงานที่ดี ซึ่งผลงานที่ดีนั้นทำให้พนักงานกลุ่มนี้รู้สึกประสบความสำเร็จ และมีพลังที่จะทำงานต่อไปอีกมากมาย โดยที่ไม่คำนึงถึงเรื่องของค่าตอบแทนเลย ผลก็คือ พนักงานกลุ่มนี้ กลับได้รับค่าจ้างที่เพิ่มสูงขึ้นกว่ากลุ่มแรก เพราะผลงานที่ออกมาพิสูจน์ได้ว่าดีกว่าพนักงานในกลุ่มแรก
แต่พนักงานอีกกลุ่มหนึ่งที่ทำงานด้วยใจรัก ทำงานเพราะอยากสร้างความสำเร็จให้กับตนเอง สร้างความภาคภูมิใจให้กับตนเอง โดยที่เงินเป็นเพียงผลพลอยได้มากกว่า กลับกลายเป็นว่าพนักงานกลุ่มนี้ ในระยะยาวจะได้รับค่าตอบแทนที่เพิ่มสูงขึ้นอยู่เสมอ เพราะด้วยผลงานที่ออกมานั้นอยู่ในเกณฑ์ดีอย่างสม่ำเสมอ
ผู้วิจัยยังให้ความเห็นเพิ่มเติมอีกว่า ถ้าเราสามารถสรรหาพนักงานที่มีเป้าหมายในชีวิตของตนเอง สอดคล้องกลับเป้าหมายขององค์กรด้วยแล้ว จะยิ่งทำให้พนักงานคนนั้นมีความสุข สนุกกับการทำงาน และต้องการสร้างผลงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง เพราะผลงานที่ดีของตนนั้น ทำให้ตนเองบรรลุเป้าหมายในชีวิตของตนเอง และองค์กรก็บรรลุเป้าหมายได้เช่นกันด้วยผลงานของพนักงานคนนี้
จากประสบการณ์ส่วนตัวที่เป็นที่ปรึกษา และวิทยากรมากว่า 15 ปี ก็เห็นมาเยอะว่า วิทยากรคนไหนที่สอนเพื่อเงินจริงๆ เรียกค่าตัวก่อนที่จะรู้ว่าต้องสอนอะไร หรือไม่ยอมที่จะให้ก่อนที่จะรับ ฯลฯ วิทยากรคนนั้นจะได้ค่าตอบแทนน้อยลงไปเรื่อยๆ เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบ แม้ว่าจะเก่งแต่ไหนก็ตาม แต่พฤติกรรมบางอย่างที่แสดงออก ก็ทำให้คนเรียนรู้ว่า เขามาสอนเพื่ออยากได้เงิน ไม่ใช่มาสอนเพราะต้องการให้ความรู้
แต่วิทยากรที่ให้ก่อน ไม่ค่อยใส่ใจเรื่องเงินมากนัก ไม่เคยเรียกร้องค่าตัวอะไรมากมาย แต่เป้าหมายก็คือ ต้องการถ่ายทอดความรู้ที่ตนเองมีให้กับคนอื่นอย่างจริงใจ แบบไม่หวงวิชาเลย วิทยากรกลุ่มนี้ กลับได้รับค่าตอบแทนมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่า คนเรียนจะแนะนำกันปากต่อปากว่า ได้ความรู้ที่ดี และวิทยากรให้ความรู้แบบไม่กั๊กไว้เลย ไม่เคยคิดว่า ได้เงินแค่นี้ก็เอาความรู้ไปแค่นี้พอ
จากข้อพิสูจน์นี้ ก็น่าจะพอบอกกับทุกคนได้ว่า ถ้าเรารักงานที่ทำ ถ้าเราให้ก่อน และให้อย่างจริงๆ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนอะไรมากมาย และถ้าเรามุ่งเน้นความสำเร็จของงานมาก่อน เมื่อเราคิดแบบนี้อย่างจริงใจ ความสำเร็จในงานก็จะมาหาเรา และเมื่อความสำเร็จมาหาเราแล้ว เรื่องของค่าตอบแทน ก็จะตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
วันนี้คุณรักในงานที่คุณทำหรือเปล่าครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น