วันอังคารที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2556

หัวหน้ากับลูกน้อง ปัญหาไม่รู้จบ (ภาคลูกน้อง)


เมื่อวานได้เขียนเรื่องราวปัญหาระหว่างหัวหน้ากับลูกน้องโดยเขียนในมุมของหัว หน้าที่ลูกน้องไม่ค่อยชอบใจให้อ่านกันไปแล้ว เพื่อความเป็นธรรมของทั้งสองฝ่าย วันนี้จะเขียนในมุมของลูกน้องว่า ลูกน้องแบบไหนที่หัวหน้าเองก็กลุ้มใจ และไม่ค่อยชอบใจในพฤติกรรมเหล่านี้ของลูกน้อง

  • ลูกน้องที่ดีแต่พูดแต่ผลงานไม่ออก ลูกน้องประเภทนี้มักชอบพูด ชอบนำเสนอ เวลาพูดหรือนำเสนอ ก็มักจะอ้างอิงสิ่งที่น่าเชื่อถือ และพูดจาได้อย่างมีหลักการ แรกๆ หัวหน้าก็ดูเชื่อถือ และให้ความไว้วางใจ แต่พอเวลาผ่านไป สิ่งที่พูดไปนั้น กลับไม่มีผลงานอะไรออกมาให้เห็นเลย หัวหน้าก็เริ่มเห็นแล้วว่า พนักงานคนนี้ดีแต่พูด แต่งานไม่ออก เวลาตามงาน ก็มักจะมีข้ออ้างที่สวยหรู
  • ลูกน้องที่มีทัศนคติไม่ดี ลักษณะ ก็คือมักจะมองทุกอย่างในแง่ลบเสมอ เสนออะไรก็บอกไม่ดี ให้ทำอะไรก็บอกไม่ได้ ถามอะไรก็บอกไม่ดี ให้ทำงานอะไรก็บอกไม่เอา ถามความคิดเห็นหน่อย ก็บอกว่าไม่ทราบ ใครที่เจอลูกน้องแบบนี้ก็คงเหนื่อยกันหน่อยนะครับ
  • ลูกน้องแบบเอาดีใส่ตัว แล้วเอาชั่วใส่คนอื่น ลูก น้องประเภทนี้มักจะอ้างผลงานที่ดีๆ ว่าเป็นผลงานของเขาเอง เขาเหนื่อยยากในการสร้างผลงานชิ้นนั้น และพยายามจะพรีเซ็นต์ตัวเองเพื่อให้หัวหน้ามองเห็นความดีตรงนั้น ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วงานชิ้นนั้นอาจจะช่วยกันทำเป็นทีม ในทางตรงกันข้าม เมื่อไหร่ที่ผลงานออกมาไม่ดี หรือถูกเจ้านายตำหนิเรื่องงาน ก็มักจะใส่ความคนอื่น กล่าวหาว่าคนอื่นเป็นคนที่ทำให้เกิดปัญหาไม่ใช่ตัวเขาเลย
  • ลูกน้องแบบนกสองหัว ลูก น้องประเภทนี้มักจะชอบโกหกเสมอ คุยกับเราอย่างหนึ่ง พอไปคุยกับอีกคนก็อีกอย่างหนึ่ง บอกเราว่าเขาเห็นด้วยกับความคิดของเราในที่ประชุม แต่กลับไปคุยกับเพื่อนร่วมงาน หรือกับฝ่ายอื่นว่าเขาไม่เคยคิดเห็นด้วยเลยกับความคิดนี้ เป็นต้น สุดท้ายก็เกิดความขัดแย้งขึ้นมาระหว่างการทำงาน
  • ลูกน้องขาเม้าส์ ลูก น้องประเภทนี้มักจะชอบสุงสิงกับคนอื่น เวลาใครจับกลุ่มนินทาคนอื่น ก็จะมีคนนี้เข้าร่วมกลุ่มอยู่เสมอ วันๆ ไม่ค่อยทำงานอะไร มีแต่เอาเรื่องคนนั้นมาบอกคนนี้ เอาเรื่องคนนี้ไปบอกคนโน้น จากนั้นก็ใส่ไข่ ใส่สีกันเข้าไปเพิ่มเติม จนคนอื่นเข้าใจผิดไปกันใหญ่ ทำจนบางครั้ง พนักงานเกิดความเข้าใจผิดกันเองก็มี ซึ่งก็ส่งผลทำให้การทำงานเป็นทีมเริ่มแย่ลง และเกิดความขัดแย้งภายในบริษัทขึ้น
  • ลูกน้องที่อีโก้สูง ลูก น้องลักษณะนี้ มักจะทำงานโดยไม่มีการปรึกษาหารือ หรือพูดคุยอะไรกับหัวหน้าเลย และคิดว่าสิ่งที่ตนทำนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุด และเลิศที่สุดแล้ว ก็เลยคิดว่าไม่จำเป็นต้องไปพูดคุยอะไรกับใคร ลุยงานของตนเองไปได้เลย ซึ่งด้วยวิธีการทำงานแบบนี้ จะทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาได้อีกมากมาย อีกทั้งยังมีพฤติกรรมที่ไม่ยอมรับความเห็นของคนอื่น ยิ่งไปกว่านั้นบางคนยังมองคนอื่นว่าแย่กว่าเราเสมอ
ลักษณของลูก น้องทั้ง 6 แบบที่กล่าวมา ผมเชื่อว่า เป็นลักษณะที่ไม่ค่อยมีหัวหน้าคนไหนชอบแน่นอนครับ ดังนั้นการที่เราจะไม่เจอกับพฤติกรรมของลูกน้องแบบนี้ แปลว่าหัวหน้าจะต้องมีการคัดเลือกลูกน้องอย่างเข้มงวด มีวิธีการในการคัดเลือกพนักงานที่มากกว่าวัดกันแค่ความรู้ สิ่งสำคัญก็คือ พฤติกรรมต่างๆ จะต้องพิจารณาให้ชัดเจน ก่อนที่จะรับเข้ามา แต่ถ้าการสัมภาษณ์ไม่สามารถมองเห็นพฤติกรรมบางอย่างได้ ก็คงต้องอาศัยช่วงเวลาทดลองงานเป็นช่วงเวลาในการพิสูจน์กัน

ยังมีพฤติกรรมของลูกน้องอีกอย่างที่ถูกมองว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดี แต่ผมเชื่อว่าบางครั้งหัวหน้าเองไม่รู้ตัว นั่นก็คือพฤติกรรมการประจบประแจงของลูกน้องนั่นเองครับ เอาเข้าจริงๆ หัวหน้าเองจะรู้หรือเปล่าว่าสิ่งที่ลูกน้องทำอยู่นั้นกำลังประจบประแจง หรือกำลังคุยปกติกับเรา เรื่องของการประจบนั้นโดยทั่วไป ถ้าได้เป็นหัวหน้าสักพักแล้ว เราจะทราบนะครับ ว่าขณะนี้ลูกน้องคนนี้ที่กำลังทำพฤติกรรมแบบนี้อยู่นั้น เข้าข่ายประจบประแจงหรือเปล่า คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวหัวหน้าแล้วล่ะครับว่า ชอบหรือไม่ชอบ บางคนชอบก็ไม่ค่อยห้ามปราม และปล่อยให้ลูกน้องทำแบบนั้นต่อไป แต่บางคนไม่ชอบ ก็จะบอกลูกน้องตรงๆ

เอาเข้าจริงๆ พฤติกรรมของลูกน้อง หรือลูกพี่ ที่เขียนมาทั้งสองวันนั้น ก็มีความเชื่อมโยงกันอยู่เหมือนกันนะครับ บางครั้งที่ลูกน้องแสดงพฤติกรรมที่ไม่ดี ก็เพราะลูกพี่ทำพฤติกรรมที่ไม่ดีให้เห็นก่อน หรือตรงข้าม ที่ลูกพี่ต้องทำพฤติกรรมแย่ๆ แบบนี้ ก็เป็นผลมาจากการที่ลูกน้องทำพฤติกรรมบางอย่างออกมาเช่นกัน
แปล ว่า ลูกพี่ กับลูกน้อง จะต้องคุยกันบ่อยๆ ครับ เพื่อปรับแต่งความเข้าใจซึ่งกันและกันให้ได้มากที่สุดครับ แล้วปัญหาก็จะเกิดน้อยลงเรื่อยๆ ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น