ปัจจุบันนี้การบริหารบุคคลมีการเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตมากมาย การบริหารแบบเดิมๆ ที่เน้นกฎระเบียบข้อบังคับอย่างเคร่งครัดนั้น เริ่มใช้ไม่ได้แล้วในยุคปัจจุบัน เนื่องจากความต้องการของพนักงานรุ่นใหม่ๆ นั้นมีความต้องการที่แตกต่างไปจากพนักงานรุ่นเดิมๆ สิ่งที่พนักงานรุ่นใหม่ต้องการในการบริหารบุคคลนั้น ก็คือ “ความยืดหยุ่น” (Workforce Flexibility) ในการบริหารทรัพยากรบุคคลนั่นเอง
ในต่างประเทศได้มีการทำวิจัยและเก็บข้อมูลเรื่องของการบริหารทรัพยากรบุคคลและการสร้างบรรยากาศในการทำงานแบบยืดหยุ่น ซึ่งจัดทำโดย Worldatwork ซึ่งได้ระบุว่ามีอะไรบ้างที่สามารถบริหารแบบยืดหยุ่นได้บ้าง ซึ่งก็มีดังต่อไปนี้ครับ
- Flex Time เรื่องแรกที่บริษัทส่วนใหญ่กำหนดให้มีความยืดหยุ่น และเป็นที่นิยมกันมากก็คือ การกำหนดเวลาการทำงานแบบยืดหยุ่น โดยให้มีการเข้าออกงานในแต่ละวันที่แตกต่างกันได้ ตามแต่พนักงานจะสะดวก โดยมีการกำหนดช่วงเวลาเข้างาน และเลิกงานที่แตกต่างกันออกไป เพียงแต่ให้แต่ละวันครบตามจำนวนชั่วโมงที่กำหนดไว้
- Telework ก็คือ สามารถทำงานที่อื่นได้ โดยไม่ต้องเข้าบริษัท โดยอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่เข้ามาช่วยในการติดต่อ และทำงานให้สำเร็จตามที่ได้รับมอบหมาย ที่เป็นที่นิยมมากหน่อยก็คือ การให้พนักงานสามารถ Telework ได้ 1 วันในสัปดาห์ โดยที่ไม่ต้องเข้ามาทำงานที่บริษัท แต่จะทำงานที่ไหนก็ได้ เพียงแต่ต้อง login เข้ามาในระบบของบริษัทเพื่อทำงาน ก็จะมีบางบริษัทที่กำหนดให้มีเวลาทำงานที่อื่นๆ แบบนี้ได้มากกว่า 1 วัน แต่ก็ยังไม่มากนัก
- Benefits program tailored to fit employee’s needs ก็คือ การจัดสวัสดิการโดยสามารถกำหนดลักษณะของสวัสดิการได้ตามความต้องการของพนักงานแต่ละคน เรื่องนี้มีการพูดกันมายาวนานแล้วเหมือนกัน แต่ดูเหมือนกับว่าในบ้านเรานั้นยังไม่ค่อยมีบริษัทไหนที่ทำออกมาอย่างชัดเจน แต่ของฟากอเมริการนั้น มีจำนวนบริษัทถึง 63% ที่จัดสวัสดิการแบบยืดหยุ่นให้กับพนักงาน โดยให้พนักงานแต่ละคนสามารถที่จะเลือกสวัสดิการที่เหมาะสมกับลักษณะการใช้ชีวิตของตนเอง
- Compressed workweek เป็นการนับเวลาการทำงานรวมต่อสัปดาห์ให้ครบตามจำนวนที่กำหนดไว้ เช่น สัปดาห์หนึ่งๆ จะต้องทำงาน 40 ชั่วโมง โดยที่บริษัทให้สิทธิพนักงานในการกำหนดเวลาทำงานของตนเองในแต่ละวันได้ เช่น บางคนอาจจะอยากทำงานวันละ 10 ชั่วโมง และทำแต่ 4 วันต่อสัปดาห์ ก็จะมีวันหยุดมากขึ้นกว่าเดิมอีก 1 วันต่อสัปดาห์ แต่รวมเวลาทำงานแล้วก็ครบถ้วนตามที่บริษัทกำหนดนั่นเอง ซึ่งวิธีนี้ก็ทำให้พนักงานสามารถที่จะบริหารเวลาการทำงานของตนเองให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น
- Phases return from Leave คือการยืดหยุ่นเรื่องของการลายาวๆ เช่น ลาคลอด ลาศึกษาต่อ ซึ่งมีระยะเวลาในการลาค่อนข้างจะยาวนาน แต่บริษัทก็ให้สิทธิพนักงานที่ต้องการจะกลับเข้ามาทำงานก่อน ก็ได้ โดยมีการคำนวณเงินจ่ายคืนในช่วงวันที่กลับเข้าทำงานก่อนถึงการสิ้นสุดวันลาที่กำหนดไว้
- Phases Retirement คือ การกำหนดอายุเกษียณที่มีความยืดหยุ่น ซึ่งในบ้านเราก็เรียกกันว่า การเกษียณอายุก่อนกำหนด ซึ่งก็สามารถให้สิทธิพนักงานทำได้ ถ้าเขาต้องการที่จะเกษียณตัวเองก่อนกำหนด โดยมีการกำหนดเรื่องของค่าตอบแทนที่ได้ไว้อย่างชัดเจน
- Shift Flexibility คือการกำหนดเวลาทำงานกะที่ยืดหยุ่น พนักงานอาจจะทำงานกะในระยะเวลาที่ยาวขึ้นหรือสั้นลงได้ แต่ก็ต้องไปชดเชยเวลาทำงานในกะอื่นๆ เพิ่มเติมได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น