พอปรับแล้วผลก็ปรากฎว่า ต้นทุนทางด้านค่าจ้างของนายจ้างที่มีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ และปรับผลกระทบค่าจ้างพนักงานไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้เงินเดือนพนักงานเกิดการทันกันนั้น ทำให้นายจ้างมีต้นทุนทางด้านค่าจ้างเพิ่มสูงขึ้นทั้งบริษัทโดยเฉลี่ย 30% เลยทีเดียว ซึ่งก็ส่งผลให้นายจ้างต้องรับภาระทางด้านต้นทุนแรงงานที่สูงขึ้นอย่างเร็ว มาก แทนที่จะค่อยเป็นค่อยไป
ก็เลยเกิดความคาดหวังจากนายจ้างว่า ผลงานของพนักงานในปีต่อไปนั้น จะต้องดีขึ้นด้วย บางแห่งประกาศเลยว่า จะทำงานเหมือนแบบเดิมๆ ไม่ได้แล้ว ลองมาดูว่านายจ้างคาดหวังอะไรจากพนักงานบ้าง
- คาดหวังผลงานของพนักงานจะต้องดีขึ้นกว่าเดิม เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกเลยที่นายจ้างทุกแห่งคาดหวังให้พนักงานทุกคนสร้างผล งานที่ดีขึ้นกว่าที่เคยทำมาก่อน พอนายจ้างคาดหวังผลงานจากพนักงานสิ่งที่บริษัทต่างๆ เริ่มทำก็คือ เริ่มมีการจัดทำตัวชี้วัดผลงาน และเอาตัวชี้วัดผลงานมาใช้ในการประเมินผลงานพนักงานมากขึ้น และจริงจังมากขึ้น เมื่อเทียบจากเดิมที่ไม่ค่อยสนใจ หรือใส่ใจเท่าไหร่ จากนี้พนักงานแต่ละคนก็จะมีตัวชี้วัดผลงานเพื่อเป็นเป้าหมายในการทำงานในแต่ ละปี เพื่อให้เกิดผลิตภาพที่สูงขึ้น ชดเชยต้นทุนแรงงานที่สูงขึ้นนั่นเองครับ
- คาดหวังให้พนักงานน้อยลงกว่าเดิม ประเด็นนี้ในบางบริษัทมีต้นทุนทางด้านค่าแรงที่สูงมาก ก็เลยส่งผลให้บริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องลดจำนวนพนักงานลง สิ่งที่บริษัทกำหนดเป็นนโยบายไว้ก็คือ เมื่อมีพนักงานลาออกไป ก็จะไม่รับใหม่ในบางตำแหน่งอีกต่อไป โดยกระจายงานเดิมให้กับพนักงานคนอื่นทำ โดยให้เหตุผลว่าค่าจ้างมากขึ้นแล้วก็ต้องทำงานให้มากขึ้นไปด้วย แต่ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากต้นทุนที่นายจ้างไม่สามารถสู้ไหว
- คาดหวังให้พนักงานทำงานมากกว่าเดิม ประเด็นนี้ก็คือ บริษัทมีความคาดหวังว่าพนักงานที่ทำงานในแต่ละตำแหน่งนั้นจะต้องรับงานได้ มากขึ้นกว่าเดิม โดยในกรณีที่มีงานมากขึ้น ก็จะไม่รับพนักงานใหม่เพิ่มแบบง่ายๆ แต่จะให้พนักงานที่มีอยู่นั้นทำงานได้มากขึ้น ซึ่งก็ตรงกับประเด็นเรื่องของ Multi skills นั่นเอง เรื่องนี้เป็นแนวโน้มของการทำงานแทบจะทุกที่แล้ว ก็คือ พนักงานคนหนึ่งจะต้องรับงานได้มากกว่าแค่ตำแหน่งเดียวแล้ว อาจจะต้องทำควบสองตำแหน่ง หรือ มากกว่า 1 งานจากเดิมที่เคยทำอยู่นั่นเองครับ
- คาดหวังให้พนักงานมีทักษะและความสามารถที่สูงขึ้น เพื่อที่จะแก้ไขปัญหา และทำให้ธุรกิจ และผลงานขององค์กรดีขึ้นๆ ไปอีก แต่เรื่องของการทำให้พนักงานเก่งขึ้นนั้น บริษัทเองก็คงต้องมีการลงทุนในการพัฒนาพนักงานไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการฝึก อบรม หรือการสอนงาน ซึ่งจุดนี้เอง บริษัทก็จะมีความเข้มข้นมากขึ้นในการที่ส่งพนักงานไปพัฒนา ก็จะต้องคาดหวังผลจากการส่งไปฝึกอบรมอย่างจริงจังมากขึ้นกว่าเดิม เพราะต้องการให้เกิดความคุ้มค่า ว่าอบรมกันแล้วพนักงานจะต้องมีความสามารถมากขึ้น และจะต้องเอาความสามารถนั้นมาพัฒนาการทำงานของบริษัทให้ดีขึ้นไปด้วย
จะอย่างไรก็ดี นายจ้าง กับลูกจ้าง ก็ยังต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกันไปเรื่อยๆ ตราบเท่าที่ยังมีการทำธุรกิจ และยังต้องอาศัยกำลังคนในการทำงาน การที่จะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขนั้นน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการทำงาน ร่วมกันของนายจ้างและลูกจ้าง ลูกจ้างเองก็คงต้องพยายามสร้างสรรค์ผลงานให้คุ้มค่ากับค่าจ้างที่เราได้รับ นายจ้างเองก็ไม่ควรจะเอาเปรียบในเรื่องของการทำงานของพนักงานมากจนเกินไป
เมื่อทั้งสองฝ่ายอยู่ด้วยกันได้อย่างดี ผลงานที่ดีก็จะเกิดขึ้นตามมาครับ
แล้วท่านผู้อ่านล่ะครับ คาดหวังอะไรบ้าง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น