พนักงานที่เป็น Top Talent มีคุณลักษณะอย่างไรบ้าง

คำว่า Talent ในปัจจุบันกลายเป็นคำที่นำมาใช้ในการบริหารทรัพยากรบุคคลมากขึ้น โดยเฉพาะในองค์กรใหญ่ๆ ที่มักจะมีการกำหนดเรื่องของ Talent Management หรือการบริหารคนเก่งนั้น จะมีระบบและแนวทางในการบริหารจัดการคนกลุ่มนี้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะเป็นการเก็บรักษา และจูงใจพนักงานที่เป็น Talent ให้มีแรงจูงใจในการทำงาน และอยู่ทำงานสร้างผลงานให้กับบริษัทอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้บริษัทได้เปรียบในการแข่งขันมากขึ้น


แล้วเคยสงสัยกันมั้ยครับว่า พนักงานที่เป็น Top Talent นั้นมีคุณสมบัติอย่างไรกันบ้าง แบบไหนถึงจะเรียกว่า Talent เนื่องจากการที่เราจะบริหารคนเก่งให้ได้นั้น สิ่งแรกที่จะต้องทำให้ชัดเจนก็คือ แล้วพนักงานแบบไหนที่เราจะจัดว่านี่คือคนเก่งขององค์กร
ผมได้อ่านเจอบทความของ Crystal Spraggins ซึ่งเขียนไว้ในเว็บไซต์ tlnt.com เขาได้ทำการสำรวจจากผู้บริหารของบริษัทต่างๆ โดยถามว่าพนักงานที่เป็น Top talent นั้นจะต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง นี่คือสิ่งที่เป็นคำตอบครับ

• Seriousness พนักงาน ที่เป็น Top Talent นั้นจะเป็นคนที่จริงจังในการทำงานอย่างมาก เขาจะจริงจังกับการกำหนดเป้าหมายในการทำงาน และจริงจังกับการทำงานให้ไปสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้ เวลาลงมือทำงานก็จะทำงานอย่างจริงจัง และมุ่งมั่นที่จะไปสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้ให้ได้ ไม่ทำงานแบบเรื่อยๆ เปื่อยๆ หรือแบบขอไปที

• Commitment เป็น คนที่ยึดมั่นในสัญญา และมีความรับผิดชอบในการทำงานอย่างเต็มที่ รับปากว่าจะทำ ก็จะทำ รับปากว่าจะหาวิธีการทำให้ได้ ก็ไปหาวิธีการมาจนได้

• Competent เป็น พนักงานที่มีความรู้ ทักษะ และพฤติกรรมในการทำงานอย่างลึกมาก เรียกว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในงานนั้นๆ เลยก็ว่าได้ สามารถที่จะใช้ความรู้ ทักษะที่มีเยอะๆ นี้ในการแก้ไขปัญหา และคิดต่อยอดการทำงานเพื่อให้งานออกมาได้ผลดีมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ใน ปัจจุบันได้

• Creativity คน ที่เป็น Top Talent นั้นจะเป็นคนที่มีความสามารถในการมองสถานการณ์ในแง่มุมต่างๆ ได้อย่างชัดเจน และยังสามารถที่จะคิดสร้างสรรค์แนวทางใหม่ๆ เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ อีกทั้งยังไม่เป็นคนที่กลัวปัญหา เพราะคิดว่าปัญหามันคือสิ่งที่ท้าทาย และเป็นสิ่งที่ทำให้เราเก่งขึ้นอยู่ตลอดเวลา

• Willfulness เป็น คนที่มีจุดยืนของตนเอง เชื่อมั่นในสิ่งที่ตนเองทำ กล่าวคือ ทำงานด้วยความมั่นใจในแนวทางที่ถูกต้อง ไม่ใช่ทำตามแต่ในสิ่งที่คนอื่นทำตามๆ กันมา โดยไม่รู้เหตุผลที่มาที่ไปแต่อย่างใด เป็นคนที่คิด หาแนวทางที่ถูกต้องและเหมาะสม และเมื่อพบกับทางที่ดีแล้ว ก็จะยืนหยัดในหนทางนั้น โดยไม่ถูกอิทธิพลอื่นๆ ที่ไม่ถูกต้อง เข้ามาทำให้เปลี่ยนแปลงความคิด และการกระทำไปได้

• Curiosity มี ความกระตือรือร้นอยู่เสมอ ไม่หยุดคิด ไม่หยุดถาม และอยากรู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ เพื่อที่จะนำเอาสิ่งที่ได้รู้มาใหม่นั้น มาใช้ในการพัฒนาการทำงานของตนเองอย่างต่อเนื่อง

• Competitiveness คน เก่งมักจะเป็นคนที่ชอบทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ดังนั้นจึงชอบที่จะเป็นคนที่แข่งกับตนเอง ทำวันนี้ให้ดีกว่าเมื่อวานนี้ ทำงานนี้ให้ดีกว่างานที่ผ่านมา และไม่เคยที่จะหยุดแข่งขันกับตนเองเลยสักวัน

• Emotional Maturity คน ที่เป็น Top Talent นั้นจะเป็นคนที่มีวุฒิภาวะสูง มีความเป็นผู้ใหญ่ เวลาคุยกับคนอื่น ก็ไม่สร้างความขัดแย้ง หรือยกตนข่มท่าน เพื่อทำให้ตนเองดูดีกว่าคนอื่น ในทางตรงกันข้าม คนที่เป็น Talent จะเป็นคนที่มี EQ ที่ดี เข้าใจผู้อื่น เข้าใจความคิดและอารมณ์ของผู้อื่น และยังสามารถที่จะตอบสนองได้อย่างเหมาะสมอีกด้วย

ที่กล่าวมา ข้างต้นก็คือสิ่งที่ผู้เขียนเขาวิจัยไว้ว่านี่คือปัจจัยของพนักงานที่เป็น Top Talent ขององค์กร เท่าที่ผมอ่านและวิเคราะห์ดูแล้ว ถ้าพูดให้ง่ายก็คือ พนักงานที่มีผลงานที่โดดเด่นมาก แปลง่ายๆ ว่า สั่งให้ทำอะไร ตั้งเป้าหมายไว้เท่าไหร่ ก็ทำได้เกินกว่าที่สั่ง และเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ อีกทั้งยังสามารถหาแนวทางใหม่ๆ ในการทำงานไปสู่เป้าหมายได้อยู่เสมอ ไม่ใช่ทำงานแบบเดิมๆ ไปเรื่อยๆ

นอกจากเรื่องงานแล้วเรื่องของพฤติกรรมก็ต้องเป็นคนที่มีความโดดเด่นในเรื่องของ พฤติกรรมการทำงาน มีความมุ่งมั่นตั้งใจ มีความรับผิดชอบที่สูงมาก และยังสามารถทำให้พนักงานคนอื่นมีแรงบันดาลใจในการทำงานที่ดีขึ้นอีกด้วย

คำถามที่มักจะมีคนถามบ่อยๆ ก็คือ แล้วพนักงานที่เป็น Top Talent นั้นในองค์กรทั่วๆ ไปจะมีสักกี่คน และเป็นไปได้หรือไม่ที่พนักงานทุกคน หรือส่วนใหญ่ในองค์กรจะเป็น Top Talent

ท่านผู้อ่านลองนึกดูง่ายๆ ก็ได้ครับ ถ้าจากคุณสมบัติของคนที่เป็น Top Talent ข้างต้นปรากฏอยู่ในพนักงานส่วนใหญ่ของบริษัท ผลงานของบริษัทจะเป็นอย่างไร ผมเชื่อว่าผลงานของบริษัทจะต้องก้าวกระโดดไปอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่ไปแบบเรื่อยๆ ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง แบบนี้

ที่สำคัญก็คือ พนักงานที่จะเป็นได้อย่างคุณสมบัติที่กล่าวมาข้างต้น ในองค์กรหนึ่งๆ ปกติแล้วจะมีไม่มากหรอกครับ ร้อยคนมีสัก 10 คนก็คือว่ามากแล้ว

สรุปแล้วถ้าองค์กรของเรากำลังจะทำระบบ Talent Management จริงๆ สิ่งแรกที่จะต้องทำให้ชัดเจนก็คือ เกณฑ์และคุณสมบัติของคนที่จะเป็นกลุ่ม Talent ได้จะต้องมีคุณสมบัติอย่างไร และทุกคนในองค์กรจะต้องมองเห็นภาพอย่างชัดเจนด้วย

มิฉะนั้น Talent ก็จะขึ้นอยู่กับผู้จัดการแต่ละคนจะมอง Talent ของคนหนึ่งอาจจะเป็น Deadwood ของผู้จัดการอีกคนหนึ่งก็คือ ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ ระบบ Talent Management ขององค์กรก็ไม่สามารถที่จะเกิดขึ้นได้เลยครับ