วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สิ่งที่พนักงานดีๆ ไม่ทำกัน

criticism

ได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนๆ ที่ทำงานในแวดวงการบริหารทรัพยากรบุคคลในช่วงปลายปีแบบนี้ ก็ได้รับข้อคิดเห็นดีๆ และแปลกๆ อยู่พอสมควรในเรื่องของการจะทำอย่างไรให้พนักงานในองค์กรเป็นพนักงานที่ดี ได้ เพราะองค์กรส่วนใหญ่มักจะฝึกอบรม และพัฒนาพนักงานเฉพาะกลุ่มที่เป็นหัวหน้า ผู้จัดการ และผู้บริหารขององค์กร โดยบางองค์ลืมไปเลยว่า เราเองก็ต้องการพนักงานที่ดีๆ ในการทำงานด้วยเช่นกัน แล้วพนักงานที่ดีนั้น ปกติเขาต้องมีคุณสมบัติอย่างไรกันบ้าง


ผมจะเขียนในมุมตรงกันข้ามว่า พนักงานดีๆ เขาไม่ทำอะไรกันบ้างดีกว่า เพราะถ้าทำสิ่งเหล่านี้ในการทำงานในองค์กร ก็จะเกิดปัญหาขึ้นอย่างแน่นอน และองค์กรเองก็ไม่ต้องการพนักงานที่มีนิสัยไม่ดีแบบนี้เข้ามาทำงานด้วยอย่าง แน่นอน
  • การโกหก เรื่องแรกที่เป็นเรื่องที่พนักงานดีๆ เขาไม่ค่อยทำกันก็คือ การโกหก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็แล้วแต่ เช่น โกหกเรื่องของประวัติการทำงานของตนเอง เรื่องของการลาป่วย ลาต่างๆ โดยไม่บอกความจริงกับหัวหน้าของตน แต่โกหกเพื่อที่จะให้ไม่เกิดปัญหากับตนเอง พนักงานบางคนขอลาป่วย แต่จริงๆ แล้วแอบไปเที่ยวกับแฟนก็มี หรือบางคนหนักไปกว่านั้นก็คือ โกหกผู้บริหารไว้อีกเรื่องหนึ่ง แล้วไปบอกผู้บริหารอีกคนอีกแบบหนึ่ง ซึ่งทำให้เกิดความขัดแย้งกันภายในองค์กรอย่างรุนแรง นอกจากกับผู้บริหารแล้ว กับเพื่อนร่วมงานก็ยังโกหกอีกเช่นกัน เพื่อนผมเล่าให้ฟังว่า พนักงานบางคนมีชีวิตอยู่ด้วยการโกหกคนอื่นอยู่เสมอ และมีความสุขกับการที่ได้โกหก บอกกับเพื่อนคนนี้ว่าไม่ใช่ ไม่เคย ไม่เป็น เพื่อที่จะทำให้เพื่อนไว้ใจ จากนั้นก็ไปโกหกเพื่อนอีกคนว่า ไม่เคย ไม่ใช่ ไม่เป็นอีกเช่นกัน เพื่อให้เพื่อนอีกกลุ่มหนึ่งยอมรับเรา พอสุดท้ายความจริงปรากฏ ก็เลยเสียเพื่อนไปทั้งสองกลุ่มเลย และการที่พนักงานโกหกแบบนี้ องค์กรเราเองก็คงไม่อยากที่จะให้เขาเติบโตขึ้นไปเป็นผู้บริหารอย่างแน่นอน
  • การมาทำงานสาย อีก เรื่องหนึ่งที่คนที่เป็นพนักงานที่ดีมักจะไม่ทำกันก็คือ การมาทำงานสายแบบเป็นประจำ แม้ว่าในยุคปัจจุบันจะไม่ค่อยซีเรียสเรื่องของเวลาในการทำงานมากนัก แต่ในเมื่อเราเข้ามาทำงานกับบริษัท และได้รับเงินเดือนจากบริษัท เราก็ไม่ควรจะเอาเปรียบบริษัท โดยการมาทำงานไม่ตรงเวลาอยู่เป็นประจำ บริษัทเข้างานแปดโมงเช้า แต่พนักงานมาเก้าโมง สายไปเป็นชั่วโมง แต่พอตอนเลิกงานกลับตรงเวลาเป๊ะ เพื่อนผมที่เป็น HR เล่าให้ฟังว่า ผู้บริหารของเขาจริงจังเรื่องเวลาในการทำงานมาก เพราะเขามองว่า นี่คือความรับผิดชอบในชีวิตของตนเอง ถ้าใครไม่สามารถที่จะรับผิดชอบชีวิตของตนเอง แค่เพียงเวลาในการมาทำงานยังรักษาไม่ได้เลย แล้วบริษัทจะมอบหมายงานที่ยิ่งใหญ่ให้พนักงานคนนี้ไปทำได้อย่างไร เพราะแค่เวลาเล็กๆ แบบนี้ยังเอาเปรียบบริษัทได้
  • ไม่รับผิดชอบงาน พนักงาน ที่ไม่ดีจะขาดความรับผิดชอบในทุกเรื่อง คิดจะไปไหนก็ไป คิดจะขาดงานก็ขาด โดยไม่สนใจว่าตอนนี้มีงานอะไรที่ต้องรับผิดชอบบ้าง หัวหน้ามอบหมายงานให้ไป แต่ก็ไม่ทำ เอาเวลาไปทำอย่างอื่น บางคนเอางานส่วนตัวขึ้นมาทำ เอาหนังสือที่ไม่เกี่ยวกับงานขึ้นมาอ่าน กดโทรศัพท์เล่น ฯลฯ โดยที่ไม่สนใจว่าจะต้องทำงานให้สำเร็จ พนักงานบางคนก็ทำงานแบบขอไปที นายสั่งอะไรก็ทำส่งๆ ไป โดยไม่ใส่ใจว่างานที่ทำจะต้องออกมามีคุณภาพสักแค่ไหน
  • พนักงานขี้นินทา พนักงาน ที่ดีมักจะไม่ค่อยนินทาคนอื่น หรือคอยจับกลุ่มเพื่อที่จะเอาเรื่องของคนนั้นคนนี้มาคุยกันอย่างออกรส โดยไม่สนใจว่าความเป็นจริงคืออะไร สนใจแค่เพียงความคะนอง และความมันปาก เอาเรื่องทุกข์ของคนอื่นมาเป็นเรื่องสนุกของเราเอง เวลาทำงานก็ไม่ทำ เอาแต่พูดคุยและนินทาคนรอบข้าง พนักงานกลุ่มนี้มักจะกลัวคนอื่นนินทาตนเองด้วยเช่นกัน ก็เลยไม่ค่อยอยากจะออกนอกกลุ่มสักเท่าไหร่เพราะกลัวว่าพอออกนอกกลุ่มแล้วคน อื่นในกลุ่มก็จะนินทาตนเองด้วยเช่นกัน พนักงานบางคนนินทาคนอื่นจนเป็นนิสัย ทนไม่ได้ที่จะต้องอยู่เงียบๆ หรือพูดในสิ่งที่ดีของคนอื่น แต่ถ้าเรื่องไม่ดีของคนอื่นแล้วล่ะก็ ชอบมากเป็นพิเศษ
อุปนิสัยข้างต้นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของพนักงานที่ไม่ดี ซึ่งพนักงานดีๆ เขาไม่ทำพฤติกรรมเหล่านี้อย่าแน่นอนครับ ก็เป็นเพียงควันหลงจากการพูดคุยกับเพื่อนที่ทำงาน HR ด้วยกัน พอมาเจอกันก็เลยมีการระบายความคับอกคับใจออกมา ก็เลยเอามาระบายให้ท่านผู้อ่านได้อ่านกันครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น