วันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2557

อย่ากลัวความยาก เพราะมันทำให้เราเติบโต

build-success

คนเรามักจะรักความสบาย จริงมั้ยครับ เพราความสบายเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกดี มีความสุข และอยากที่จะอยู่สบายๆ ไปเรื่อยๆ แต่ทราบมั้ยครับว่า การที่เราอยากเติบโต และอยากประสบความสำเร็จในชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่เรายังไม่เคยทำได้มาก่อนนั้น เราจำเป็นที่จะต้องผ่านสิ่งต่างๆ ที่ยากลำบาก และเป็นสิ่งที่เราไม่เคยทำมาก่อน และเมื่อเราผ่านมันไปได้ เราก็จะรู้สึกว่าเราเติบโตขึ้น และประสบความสำเร็จมากขึ้น


แต่ก่อนที่จะไปถึงจุดนั้น สิ่งที่เราจะต้องทำก็คือ จะต้องผ่านความยาก ผ่านสิ่งที่ทำให้เราไม่สบายกาย ไม่สบายใจ ต้องทำในสิ่งที่ยาก และสิ่งที่เราไม่อยากทำ เพราะเราต้องการความสบายแบบเดิม แต่ถ้าเราสามารถฝ่าฟันความรู้สึกสบายไปได้ เราก็จะประสบความสำเร็จได้เช่นกัน และนี่เองคือความแตกต่างของคนที่ประสบความสำเร็จ กับคนที่ไม่ประสบความสำเร็จ
  • ถ้าเราอยากแข็งแรง นอนเฉยๆ ก็คงไม่แข็งแรงอะไรขึ้นมา สิ่งที่เราต้องทำก็คือ ออกกำลังกาย ซึ่งเป็นสิ่งที่เรารู้สึกว่ามันยากลำบากเหลือเกิน อยากนอน อยากกินมากกว่า
  • ถ้าเราอยากเก่งภาษา นั่งเฉยๆ ก็คงไม่ได้ทำให้เราเก่งขึ้นมาได้เลย เราก็คงต้องทนความลำบากตรงที่เราต้องอ่านหนังสือ อดทนท่องศัพท์ เรียนรู้สิ่งต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่เคยทำมาก่อน และทำให้เราต้องลำบากกว่าปกติที่เราเป็น
  • เราอยากมีผลงานที่ดี แต่กลับไม่ขยัน มัวแต่นั่งเล่น นอนเล่น ไม่สนใจเรียนรู้ และพัฒนาตัวเอง เราก็หมดโอกาสมีผลงานที่ดี แต่ถ้าเรายอมลำบากพัฒนาตนเอง ขยันลงมือทำงานจริงๆจังๆ เราก็จะมีผลงานที่ดีขึ้น
กฎของธรรมชาตินั้นบอกไว้ว่า อะไรที่ทำให้เราสะดวกสบายมากๆ จะไม่มีทางที่จะทำให้เราเติบโตได้เลย และอะไรก็ตามที่ไม่ทำให้เรารู้สึกยากลำบาก ก็ไม่มีทางทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นมาได้เช่นกัน

ดังนั้นเหตุการณ์หรือ การกระทำอะไรที่มีแต่ความสบาย มีแต่ความง่าย เรื่อยๆ ก็ยิ่งมีบทเรียน มีปัญญา และมีการเติบโตอยู่ในนั้นน้อยมาก ผิดกับงานที่ยากลำบาก ต้องคิดเยอะๆ ต้องลงแรง ต้องทำในสิ่งไม่เคยทำมาก่อน และเป็นงานที่ทำให้เรารู้สึกยากลำบากกว่าปกติ นี่แหละที่มีปัญญาซ่อนอยู่ มีบทเรียนใหม่ๆ ให้เราได้เรียนรู้

การทำงานแบบเดิมๆ ซ้ำๆ โดยที่ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลง หรือปรับปรุงงานให้ดีขึ้น เพราะมัวแต่คิดว่ามันทำให้เราลำบาก และไม่สบายเหมือนเดิม ถ้าคิดแบบนี้ เราก็หมดโอกาสเติบโตยอย่างแน่นอน

มีงานวิจัยชิ้นหนึ่ง จากคณะจิตวิทยามหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการวิจัยโดยทำลูกหนูหลายๆ ตัวมาเลี้ยงแยกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นหนูที่ถูกเลี้ยงอย่างราชา คือได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี มีสิ่งแวดล้อมที่ไร้ปัญหาและอุปสรรคใดๆ ทั้งสิ้น มีข้าว มีน้ำมาบริการถึงที่

ส่วนหนูอีกกลุ่มหนึ่งถูกเลี้ยงอย่างทรหดอดทน คือกว่าจะได้กินข้าว กินน้ำ ต้องปั่นวงล้อเพื่อให้ข้าวและน้ำออกมา และยิ่งไปกว่านั้นยังต้องเดินทางในเขาวงกตที่มีอุปสรรคมากมาย เพื่อไปหาอาหาร เมื่อหนูกลุ่มนี้เติบโตขึ้น นักวิจัยพบว่ามันมีเส้นประสาท และการเชื่อมโยงในสมองมากกว่าหนูกลุ่มแรกอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนั้น ยังเห็นปลายประสาทของหนูกลุ่มที่สองที่แตกหน่อไปอย่างสวยงามในส่วนต่างๆ ของสมองอีกด้วย ซึ่งในทางจิตวิทยานั้น จำนวนเส้นประสาท คือเครื่องบ่งบอกระดับสติปัญญาที่แม่นยำที่สุด

ดังนั้นจงอย่าไปกลัว ความล้มเหลว อย่ากลัวปัญหาที่จะเกิดขึ้น อย่าไปกลัวความยากลำบากเลยครับ เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้สมองของเราได้รับการพัฒนา มีความล้ำเลิศ และมีเส้นประสาทมากขึ้นกว่า คนอื่นๆที่ชอบอยู่สบายๆ

ถ้าเราอยากเติบโต ก็ต้องไม่กลัวความลำบาก เพราะอะไรที่ไม่ท้าทาย ไม่ลำบาก ก็มักจะทำให้เราไม่เติบโต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น