วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

อย่ามองงานที่ทำว่าเป็นแค่งานประจำ ถ้าอยากเติบโต


ตอนนี้คุณรู้สึกอย่างไรกับงานที่ทำอยู่ทุกวันบ้าง ชอบ ไม่ชอบ เบื่อ ไม่มีอะไรใหม่ ฯลฯ พนักงานบางคนเข้ามาทำงาน ก็เพราะต้องทำงาน คิดแค่เพียงว่า ทำงานเพื่อให้มีเงินเดือนมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันก็พอ พอถึงเวลาทำงาน ก็ทำบ้าง ไม่ทำบ้าง ลาบ้าง ป่วยบ้าง โดยไม่สนใจว่าผลงานที่ออกมาจะเป็นอย่างไร ทำเท่าที่ทำได้ก็พอ ถ้าคิดแบบนี้ งานที่เราทำก็จะเป็นแค่เพียงงานประจำเท่านั้น เราจะไม่สามารถเติบโตต่อไปจากงานประจำที่เราทำอยู่ทุกวันได้เลย


ใครก็ตามที่ตัดสินใจแล้วว่าจะมาเป็นมนุษย์เงินเดือน ก็คงต้องรับได้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ จะต้องเข้าบริษัททำงานตามเวลาที่กำหนด และออกจากบริษัทตามเวลาเลิกงาน ถ้าเรามองว่านี่ก็เป็นแค่เพียงวัฎจักรของคนทำงานบริษัท มันก็จะจบแค่นี้ เพราะเราจะไม่คิดต่อยอดทำอะไรใหม่ๆ เลย ก็จะเดินตามกรอบเวลา และงานเดิมๆ ซ้ำๆ ที่ทำอยู่ และถ้าเราคิดแบบนี้ไปเรื่อยๆ การเติบโตในหน้าที่การงานก็จะไม่มี เพราะคงไม่มีใครที่อยากให้คนที่คิดแบบนี้ และทำงานแค่นี้ มารับผิดชอบงานที่ใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ อย่างแน่นอน

ดังนั้นการที่มนุษย์ เงินเดือนอย่างเราๆ จะประสบความสำเร็จในการทำงานได้นั้น เราคงต้องเปลี่ยนวิธีคิด ทัศนคติ มุมมอง และพฤติกรรมในการทำงานกันใหม่ เพื่อทำให้งานประจำของเรา ไม่ใช่งานประจำที่ต้องอดทนทำมันไปเรื่อยๆ
  • มองงานให้เห็นถึงความท้าทาย ทุกงานมีความท้าทายทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นงานระดับล่าง ระดับกลาง หรือระดับสูง งานทุกระดับจะมีความจำเจปนอยู่ และจะมีความท้าทายในการทำงานผสมอยู่ด้วยเสมอ ดังนั้นถ้าเราต้องการหลุดออกจากกรอบงานประจำจริงๆ สิ่งแรกที่จะต้องคิดและเปลี่ยนมุมมองก็คือ พยายามมองให้เห็นความท้าทายในการทำงานนั้นๆ ของเรา ผมเคยเห็นพนักงานถ่ายเอกสาร ซึ่งทำงานจำเจมากๆ แต่สนุกกับการทำงานถ่ายเอกสาร โดยพยายามคิดหาวิธีที่จะถ่ายเอกสารได้เร็วที่สุด และผิดพลาดน้อยที่สุด ซึ่งดูแล้วเขาก็มีความสุขกับการได้ทำให้งานประจำมันกลายเป็นความท้าทายที่จะ ต้องหาคำตอบใหม่ๆ อยู่เสมอ สิ่งที่จะทำให้เราสามารถเห็นความท้าทายของงานได้ ก็คือ ต้องลองคุยกับหัวหน้าดูว่า งานที่เรากำลังทำอยู่นั้น มีผลอะไรต่อความสำเร็จขององค์กรบ้าง เมื่อเรารู้ความเชื่อมโยงของงานกับความสำเร็จขององค์กร ก็จะทำให้เรารู้สึกว่างานของเรามีความหมาย และมีความท้าทาย
  • หาวิธีการปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้นอยู่เสมอ คน ที่ทำงานประจำ แบบประจำจริงๆ ก็จะทำงานแบบเดิมๆ ไปเรื่อยๆ ไม่เคยคิดที่จะหาวิธีการ หรือแนวทางใหม่ๆ ในการทำงานให้ดีขึ้นกว่าเดิม เรียกว่า สั่งให้ทำแบบนี้ ก็ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนเทคโนโลยีก้าวหน้าไปไหนต่อไหนแล้ว เราก็ยังคงทำแบบเดิมอยู่ โดยที่ไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยนแปลงให้มันดีขึ้น ถ้าคิดแค่นี้ เราก็จะได้แค่นี้ แต่ถ้าเราทำงานแล้ว พบกับสิ่งที่ไม่เหมาะสม และสามารถทำให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้ และเราเสนอสิ่งนั้นกับทีมงาน และหัวหน้างาน สิ่งที่เราจะได้ก็คือ ผลงานที่ดีขึ้น งานก็จะไม่น่าเบื่อ เพราะเราเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานใหม่ให้ดีกว่าเดิม ประสิทธิภาพการทำงานก็ดีกว่าเดิม และถ้าเราทำแบบนี้ได้อยู่เสมอ ผลงานของเราก็จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการเติบโตในหน้าที่การงานของเราก็จะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แทนที่จะทำซ้ำๆ เดิมๆ เราก็จะโตขึ้น และองค์กรก็จะเห็นความสำคัญของเรามากขึ้นด้วย
  • ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ การ ทำงานนั้น ถ้าเราทำไปเรื่อยๆ โดยไม่เรียนรู้อะไรเพิ่มเติม ก็เท่ากับว่าเรากำลังถอยหลังไปเรื่อยๆ เช่นกัน เพราะตลาดและสภาพแวดล้อมต่างๆ ล้วนเปลี่ยนแปลงไป พัฒนากันไปอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา ผมเคยเห็นพนักงานบางคนทำงานแบบขอไปทีจริงๆ ไม่เคยคิดที่จะพัฒนาตนเองเลย เอาง่ายๆ แค่การใช้งานโปรแกรม Microsoft office ก็ได้ บางคนใช้มันมาเป็น 10 ปี ก็ยังคงใช้งานได้เท่าเดิม ไม่ได้รู้อะไรมากขึ้นไปกว่าเดิมเลย แต่พนักงานบางคนพยายามศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม เพราะคิดว่าจริงๆ แล้วโปรแกรมต้องใช้งานอะไรที่ได้มากกว่านี้ และทำให้เราสามารถทำงานได้สะดวกกว่านี้ ก็เลยไปศึกษาหาความรู้ในการใช้งานด้วยตนเอง หาหนังสือมาอ่านเพิ่มเติม จนสามารถใช้งานได้มากขึ้น ซึ่งส่งผลต่อผลงาน และประสิทธิภาพในการทำงานของตนเองที่ดีขึ้นได้ ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องของโปรแกรมนะครับ เรื่องของตัวงานเอง เราก็สามารถศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมได้อยู่เสมอ เพราะไม่มีงานอะไรที่ไม่มีการพัฒนาหรอกครับ
แค่เราทำ 3 ประการข้างต้นได้ งานประจำของเราก็จะไม่ประจำแล้วครับ และเมื่อเราสามารถทำได้อย่างที่เขียนไว้ข้างต้น ผลงานเราก็จะดีขึ้น เข้าตาหัวหน้าของเรา ก็จะทำให้เรามีความก้าวหน้าในการทำงานมากขึ้นไปอีก อย่างที่บอกครับ มนุษย์เงินเดือนก็สามารถก้าวหน้าได้ ขอเพียงอย่าคิดแค่ว่า งานของเรามันก็แค่งานประจำ

เพราะมิฉะนั้น เราก็จะประจำอยู่กับที่แบบนั้นตลอดไปเหมือนกันครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น