วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

คนขายสุนัข และ ลูกสุนัข 7 ตัว

วันศุกร์นี้ก็นำเอานิทานสีขาวอีกเรื่องมาให้อ่านกันนะครับ ซึ่งเขียนโดย ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยาครับ เรื่องราวมีดังนี้ครับ


มี ร้านค้าแห่งหนึ่ง ติดประกาศขายลูกสุนัข 7 ตัว เมื่อรู้ข่าวก็มีเด็กๆ แวะเวียนเข้ามาเล่น มาชมลูกสุนัขทุกวัน แต่ก็ยังไม่มีใครตกลงใจซื้อ เพราะเป็นสุนัขพันธุ์ดีมีราคาค่อนข้างแพง

วันหนึ่ง ขณะที่เจ้าของร้านกำลังยุ่งอยู่กับการขายของอื่นๆ ให้แก่ลูกค้าในร้าน ก็มีเด็กชายหน้าตาน่าเอ็นดูคนหนึ่ง มากระตุกชายเสื้อของเขา เขาก้มลงมอง และถามว่า มีอะไรให้ช่วยหรือไม่

เด็กคนนั้นก็บอกกับเจ้าของร้านว่า “เพื่อนของผมบอกว่า ที่ร้านของคุณอามีลูกหมาขาย ผมอยากเลี้ยงลูกหมาสักตัว พ่อแม่ก็อนุญาตแล้ว ผมขอดูลูกหมาของคุณอาหน่อยได้มั้ยครับ”

“อ๋อ ได้สิหนู พวกมันกำลังนอนเล่นอยู่หลังร้านน่ะ” เจ้าของร้านกล่าวอย่างยินดี แล้วก็ผิวปากเรียกสุนัขทั้ง 7 ตัวออกมา

เด็กชายยิ้มร่าเมื่อเห็นลูกสุนัขวิ่งตุ้ยนุ้ยออกมาทีละตัว เขาก็นับ... แต่ก็มีแค่ 6 ตัวเท่านั้น ไหนว่ามี 7 ตัว

“มีคนซื้อไปแล้วหรอครับ” เด็กชายถาม

“อ๋อ เปล่าหรอกหนู ยังไม่มีใครซื้อไปสักตัวเลย เพียงแต่ตัวสุดท้ายขาหลังเขาไม่ดีมันก็เลยต้องคลานออกมา วิ่งมาพร้อมกับพี่ๆ ของมันไม่ได้” เจ้าของร้านตอบ

สิ้นคำเจ้าของร้าน ลูกสุนัขตัวที่เจ็ดก็คลานออกมา ขาหลังของมันทั้งคู่ลีบเหลือนิดเดียว มันต้องใช้สองขาหน้าพาร่างกายออกมาจากหลังร้าน

ลูกสุนัขมองมาทางเด็กชายแล้วครางงี๊ดๆ เห็นได้ชัดว่า มันกำลังคลานเข้ามาหาเขา หางของมันกระดิกดุ๊กดิ๊กอยู่ตลอดเวลา มันคลานเข้ามาเลียร้องเท้าของเด็กชาย ท่าทางจะชอบเขามาก

เด็กชายหัวเราะและอุ้มมันขึ้นมา ก่อนจะถามข้าวของร้านว่า “หมาตัวนี้ราคาเท่าไหร่ครับ”

“ปกติอาบอกขายอยู่ตัวละสองพันนะ” เจ้าของร้านตอบ

เด็กชายนิ่งอึ้งไป ก่อนที่ล้วงกระเป๋าหยิบเงินออกมานับ เขามีเงินอยู่เพียงสี่ร้อยห้าสิบบาทเท่านั้น
“ผมมีเงินไม่พอซื้อหมาตัวนี้” เด็กชายพึมพำอย่างเศร้าใจ

เจ้าของร้านก็รีบตอบทันทีว่า “โอ๊ะหนู ถ้าอยากได้หมาตัวนี้ ก็เอาไปเถอะ ไม่ต้องจ่ายเงินหรอก อายกให้หนูฟรีๆ ไปเลย”

เด็กชายฟังเจ้าของร้านแล้วชะงักไป ก่อนจะถามกลับอย่างไม่พอใจว่า

“ทำไมครับ ทำไมถึงบอกว่าไม่ต้องจ่ายเงินซื้อหมาตัวนี้”

“ก็ อย่างที่หนูเห็นอย่างไรล่ะ ลูกหมาตัวนี้มันติดมาพร้อมกับพี่ๆ น้องๆ ของมัน และอาก็ไม่คิดจะขายมันอยู่แล้ว เพราะมันพิการ วิ่งก็ไม่ได้ กระโดดก็ไม่ได้ ความจริง อาไม่อยากให้หนูได้ของมีตำหนิอย่างนี้ไปนะ ลองดูตัวอื่นดีไหม”

เด็กชายเม้มปากแน่น ก่อนจะพูดว่า “คุณอาดูอะไรนี่สิครับ”
 ว่าแล้วเขาก็ดึงกางเกงทั้งสองข้างขึ้น

เจ้าของร้านจึงได้เห็นว่า ขาของเด็กคนนี้ลีบเล็ก เช่นเดียวกับขาหลังของลูกสุนัข แต่ที่ทำให้เขายืนอยู่ได้ ก็เพราะมีขาเทียมช่วยพยุงเอาไว้

“คุณอา ครับ ขาของผมก็ลีบเล็กใช้การอะไรไม่ได้เหมือนกัน ผมเดินช้ากว่าเพื่อนคนอื่นๆ วิ่งก็ไม่ได้ กระโดดก็ไม่ได้ อย่างนี้ ผมก็เป็นคนไร้คุณค่าหรือเปล่าครับ”

เจ้าของร้านนิ่งอึ้งไป ความรู้สึกผิดแล่นปราดเข้าสู่หัวใจของเขา

เด็กชายปล่อยขากางเกงลงแล้วพูดต่อว่า “ผมจะซื้อสุนัขตัวนี้ ในราคาสองพันบาท เท่ากับลูกหมาตัวอื่นๆ แต่ว่าผมมีเงินไม่พอ ถ้าผมจะอ้อนวอนคุณอาขอผ่อนราคาของลูกหมาตัวนี้ เดือนละหนึ่งร้อยบาททุกเดือน จนครบสองพันบาท คุณอาจะว่าอย่างไรครับ”

เจ้าของร้านน้ำตาไหลริน ทรุดตัวลงตรงหน้าเด็กชาย และกอดเขาไว้ด้วยความประทับใจ พลางกล่าวขอโทษในสิ่งที่ตนได้ทำพลาดไป

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าตัดสินคุณค่าจากรูปลักษณ์ภายนอก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น