วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2557

นิทานเซน ชีวิตคล้ายดั่งใบชา

คำอวยพร

เป็นนิทานเซนอีกเรื่องหนึ่งที่ผมอ่านแล้วชอบมากครับ เรื่องราวมีดังนี้ครับ

มีชายหนุ่มที่พบกับความผิดหวังคนหนึ่งมาที่วัด พบกับพระอาจารย์แล้วเล่าระบายทุกข์ให้ฟังว่า “เฉกเช่นคนอย่างข้าพเจ้าซึ่งผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่ามีชีวิตก็เพียงแค่อยู่ไปวันๆ ไม่มีประโยชน์อะไรเลย”


พระอาจารย์นั่งนิ่งอย่างสงบและสำรวม ฟังชายหนุ่มคนนั้นรำพึงรำพันและทอดถอนใจ ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่สั่งพระที่เป็นอุปัฏฐากว่า

“ประสกท่านนี้เดินทางมาแต่ไกล ไปหาน้ำอุ่นมาสักกาซิ”

เมื่อพระนั้นยกกาน้ำอุ่นมาให้ พระอาจารย์จึงหยิบใบชามาใส่ไว้ในแก้ว

แล้วรินน้ำอุ่นลงในแก้ว พลางยื่นแก้วนั้นให้กับชายหนุ่ม แล้วพูดว่า

“ประสก เชิญดื่มชาก่อน”

ชายหนุ่มก้มหน้าลงมองแก้วชานั้น เห็นไอความร้อนลอยอ้อยอิ่งออกมาเล็กน้อย
มีใบชาลอยขึ้นมาอยู่นิ่งๆ

ชายหนุ่มถามขึ้นอย่างๆไม่เข้าใจว่า “ทำไมวัดนี้ถึงใช้น้ำอุ่นชงชา?”

พระอาจารย์ไม่พูดอะไร เพียงแต่แสดงทีท่าว่า “ดื่มชาก่อนเถอะ”

ชายหนุ่มนั้นจึงจำใจยกชาขึ้นมาจิบไปสองสามครั้ง”

พระอาจารย์ถามว่า “ชานี้คงจะหอมซินะ”

ชายหนุ่มนั้นจึงค่อยๆยกชาขึ้นมาจิบเพื่อลิ้มรสอย่างช้าๆ พลางส่ายหัวพูดว่า
“นี่เป็นชาอะไรครับ ความหอมสักนิดก็ไม่มี”

พระอาจารย์ยิ้มพลางและพูดว่า
“นี่เป็นใบชาชื่อดังที่ชื่อว่ากวนอิมเหล็ก ทำไมถึงไม่หอมล่ะ”

ชายหนุ่มนั้นเมื่อได้ฟังว่าเป็นใบชารสเลิศที่ชื่อกวนอิมเหล็ก
 ก็รีบยกแก้วขึ้นมาแล้วใช้ลมเป่าเศษใบชาที่ลอยอยู่ออก แล้วค่อยๆจิบเพื่อลิ้มรสชาติใหม่ แล้ววางแก้วลงพลางยืนยันอีกว่า
“ไม่มีกลิ่นชาแม้แต่สักนิดจริงๆ”

พระอาจารย์จึงสั่งพระอีกรูปหนึ่ง ให้เอาน้ำเดือดมาอีกกาเมื่อกาน้ำร้อนมาแล้ว พระอาจารย์จึงหยิบใบชาใส่ลงในแก้วอีกใบหนึ่งแล้วเติมน้ำร้อนลงไป แล้วยกไปวางไว้ข้างหน้าชายหนุ่มชายหนุ่มนั้นก้มหน้ามองไปที่แก้วน้ำใบนั้น ก็เห็นใบชาในแก้วลอยขึ้นลงไปตามแรงวนของใบชา แล้วสักครู่ก็ได้กลิ่นหอมอ่อนๆของใบชาลอยขึ้นมาแตะจมูก ชายหนุ่มนั้นเผลอยกขึ้นมาสูดกลิ่น

พระอาจารย์พูดขึ้นมาว่า “ช้าก่อน พ่อหนุ่ม”

พลางเติมน้ำร้อนลงในแก้วเพิ่มขึ้นอีก ชายหนุ่มนั้นก้มหน้าลงมองแก้วน้ำก็เห็นใบชาเหล่านั้นลอยขึ้นและจมลงหมุนวน คละไปทั่ว พร้อมกับได้กลิ่นหอมอ่อนของใบชาลอยอบอวลขึ้นมานอกแก้วชา พระอาจารย์เติมน้ำร้อนเพิ่มลงในแก้วอีกหลายครั้งจนน้ำเต็มแก้ว พลางถามว่า

“ประสก ทำไมใช้ใบชาชนิดเดียวกันทำไมกลิ่นชาถึงแตกต่างกัน?”

“ใบหนึ่งใช้น้ำอุ่นชง อีกใบหนึ่งใช้น้ำเดือดชง เพราะใช้น้ำที่แตกต่างกัน หนุ่มนั้นตอบ

“ใช้ น้ำที่ต่างกัน การลอยของใบชาก็แตกต่างกัน ใบชาที่ใช้น้ำอุ่น ใบชาจะลอยเอื่อยๆ ไม่มีการลอยแล้วจม แล้วใบชาจะแผ่กระจายความหอมออกมาได้อย่างไร?”

แต่ใบชาที่ชงกับน้ำเดือด ผ่านน้ำร้อนครั้งแล้วครั้งเล่า ใบชาจมแล้วก็ลอยลอยแล้วก็จม ลอยๆจมๆใบชาก็จะแผ่ขจายกลิ่นหอมของฝนที่รับมาจากฤดูใบไม้ผลิความร้อนจากแสง อาทิตย์ที่ได้ในฤดูร้อน ความเย็นสงบในหน้าหนาว

คนมากมายในโลกนี้ มีอะไรไม่เหมือนชาเล่า คนที่ไม่เคยผ่านร้อนผ่านหนาวใช้ชีวิตให้ผ่านไปวันๆไปเรื่อยๆ ก็เหมือนกับใช้น้ำอุ่นชงชา ใบชาลอยไปเสมอกันไม่สามารถกลั่นเอาความหอมและปัญญาออกมาได้

และคนที่ต้องพบกับอุปสรรคและทุกข์ลำเค็ญอดมื้อกินมื้อ พบกับความโชคร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า ก็เหมือนใบชาที่ชงกับน้ำร้อนครั้งแล้วครั้งเล่า พวกเขาผ่านวันเวลาฝ่าลมฝนพายุที่ขึ้นๆลงเสมอมา ทำให้ชีวิตของพวกเขาค่อยๆกลั่นความหมายออกมาสวนกระแสขึ้นมาเหมือนใบชา แล้วพวกเราทำไมจะไม่เหมือนชีวิตของชา ชะตาชีวิตทำไมจะไม่เหมือนกาน้ำอุ่นหรือน้ำเดือด

ใบชาเพราะถูกน้ำร้อนจัด จึงคายความหอมที่บ่มเพาะอยู่ในตัวออกมาและชีวิตก็มีแต่พบอุปสรรคและความยาก ลำบาก ถึงจะบ่มเพาะความหอมที่มีอยู่ในตัวออกมา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น