วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ทักษะสำคัญของหัวหน้า ที่มักจะถูกมองข้าม


คนที่เป็นหัวหน้างานไม่ว่าจะตำแหน่งอะไรก็ตาม ที่ต้องทำหน้าที่ดูแลบริหารจัดการทั้งงาน และทั้งลูกน้องของตนเองนั้น ล้วนแต่ต้องมีการฝึกฝนและพัฒนาทักษะในการบริหารจัดการทั้งในเรื่องของการทำ งาน และในเรื่องของการบริหารคน ซึ่งส่วนใหญ่ทักษะที่ต้องเพิ่มพูนเป็นพิเศษก็คือ ทักษะในการบริหารคน ซึ่งถือว่า เป็นทักษะที่หัวหน้างานทุกระดับในองค์กรจำเป็นต้องมี เรียกว่า ขาดไม่ได้เลย เพราะคนที่เป็นหัวหน้า จะต้องอาศัยคนอื่นทำงานให้สำเร็จให้ได้ ดังนั้นทักษะในการบริหารจัดการคนจึงถือเป็นทักษะที่มีความสำคัญในการเป็นหัว หน้างานที่ประสบความสำเร็จ


แต่อย่างไรก็ดี ก็ยังมีทักษะในการบริหารจัดการที่มักจะถูกมองข้ามไปในการเป็นหัวหน้างานที่ ดี และเป็นทักษะที่ไม่ค่อยจะมีใครสอนมากนัก แต่กลับเป็นทักษะที่มีความสำคัญ ถือว่าเป็นพื้นฐานของการเป็นหัวหน้างานที่ดีเลยก็ว่าได้ ทักษะเหล่านั้นมีอะไรบ้างลองมาดูกันครับ
  • ทักษะการฟัง เรื่องของการฟัง เป็นทักษะเรื่องหนึ่งที่ไม่เคยมีใครสอนอย่างจริงจัง คนส่วนใหญ่ฟัง แต่ฟังแบบไม่พยายามที่จะเข้าใจคนอื่น ฟังแล้วมักจะดึงเข้าหาประสบการณ์ของตนเองเป็นหลัก ทำให้บางครั้งที่ลูกน้องพูดอะไรมาแล้ว หัวหน้าก็ฟังแบบไม่เคยเข้าใจ และมักจะคิดเองว่า ทำไมลูกน้องถึงไม่คิดให้ถูกต้อง หรือทำไมลูกน้องถึงไม่คิดอย่างเรา ซึ่งนี่ก็คือ การฟังอย่างไม่เข้าใจ และการฟังแบบนี้มักจะก่อให้เกิดปัญหาตามมาเยอะ เพราะลูกน้องเองก็จะคิดว่าหัวหน้าไม่เคยเข้าใจเขาเลย พูดอะไรไป ก็ไม่เคยฟัง ไม่เคยคิดจะเข้าใจ สุดท้ายปัญหาก็ตามมาอีกมากมายเนื่องจากหัวหน้าฟังไม่เป็นนี่เอง
  • ทักษะการสร้างแรงจูงใจ เรื่อง นี้ส่วนใหญ่มักจะได้เรียนกันในภาคของทฤษฎีของการสร้างแรงจูงใจ เรียนว่าความต้องการของคนเรามีอะไรบ้าง กี่ขั้น พอเรียนแล้วก็ไม่สามารถที่จะเอามาประยุกต์ใช้กับลูกน้องของตนเองได้เลย ได้แค่หลักการเอากลับไปเท่านั้น จริงๆ แล้วการสร้างแรงจูงใจเพื่อให้พนักงานอยากทำงานนั้น ตัวหัวหน้าเองต้องเป็นผู้สร้างบรรยากาศในการทำงานเพื่อให้เอื้อกับความต้อง การของพนักงานมากกว่า ไปสร้างสิ่งที่พนักงานต้องการโดยตรง เพราะยังไงก็ไม่สามารถทำได้ตามที่พนักงานต้องการอยู่แล้ว ดังนั้นวิธีการง่ายๆ ที่ไม่ค่อยมีใครเขาสอนกันเลย ก็คือ หัวหน้างานจะต้องเป็นผู้สร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงาน โดยการเริ่มต้นวันทำงานทุกวันอย่างสดใส ยิ้มแย้มแจ่มใส ทักทายพนักงานด้วยไมตรีจิต และความจริงใจ เพื่อให้พนักงานมีความรู้สึกอยากทำงานตั้งแต่ช่วงต้นวันของแต่ละวัน เวลาพนักงานทำงานได้ดี ก็ให้คำชมด้วยความจริงใจ ถ้าเราเริ่มต้นด้วยสิ่งง่ายๆ แบบนี้ในทุกๆ วัน บรรยากาศในการทำงานก็จะดีขึ้น และแรงจูงใจในส่วนของการทำงานของพนักงานก็จะมีมากขึ้น หัวหน้างานบางคนคิดเอาเองว่าการที่พนักงานไม่มีแรงจูงใจเพราะได้รับเงิน เดือนน้อยเกินไป คำถามก็คือ หัวหน้างานเองสามารถที่จะเพิ่มเงินเดือนให้พนักงานคนนั้นได้โดยตรงหรือไม่ คำตอบก็คือ ไม่ได้อย่างแน่นอน ดังนั้นสิ่งที่หัวหน้าสามารถทำได้ด้วยตัวเองก็คือ การสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงาน เพื่อเป็นการส่งเสริมให้พนักงานสร้างผลงานที่ดี และเมื่อพนักงานสร้างผลงานที่ดีได้ ก็เข้าสู่กระบวนการประเมินผลงาน และการให้รางวัลตอบแทนก็จะตามมาเอง
  • ทักษะการให้ Feedback ทักษะ เรื่องนี้ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการบริหารจัดการผลงานของพนักงาน หัวหน้างานส่วนใหญ่มักจะมองข้ามเรื่องของการให้ Feedback แก่ลูกน้องของตนเอง ส่วนใหญ่มักจะคิดว่า Feedback เป็นอะไรที่ไม่สำคัญ ไม่ต้องบอกลูกน้องก็ได้ หัวหน้างานบางคนไม่กล้าที่จะให้ ไม่กล้าที่จะบอกและคุยเรื่องผลงานกับพนักงานของตนเองเลยด้วยซ้ำไป ซึ่งผลก็คือ ทำให้พนักงานไม่รู้ว่าตนเองทำผลงานออกมาเป็นอย่างไรบ้าง ดีไม่ดีอย่างไร ซึ่งถ้าพนักงานไม่รู้ว่าตอนนี้เขาทำงานออกมาเป็นอย่างไรบ้าง ก็ไม่สามารถที่จะพัฒนาผลงานได้อย่างแน่นอน เพราะไม่รู้ว่าตนเองทำอะไรไม่ดี หรือดี บ้าง และที่สำคัญก็คือ การที่หัวหน้าไม่บอกอะไรกับลูกน้องเลย ก็เป็นการทำให้ลูกน้องคิดไปเองว่า สิ่งที่ตนเองทำนั้นถูกต้อง และดีอยู่แล้ว สุดท้ายก็ไม่ต้องมีการพัฒนาอะไรกันเลย ผลงานก็จะออกมาแบบเดิมๆ ทุกๆ ปี
  • การสร้างแรงบันดาลใจให้พนักงาน อีก เรื่องที่ไม่มีใครพูด หรือสอนกันเลยก็คือ หัวหน้าที่ดี จะต้องเป็นผู้ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับพนักงานได้ กล่าวคือ ทำให้พนักงานรู้สึกมีพลังในการทำงาน มีกำลังใจที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เข้ามาในการทำงานได้ ดังนั้นหัวหน้าที่ดีจะต้องแสดงให้ลูกน้องเห็นถึงพลังทางบวกของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นทัศนคติ การมองโลกในแง่ดี และถ่ายทอดสิ่งดีๆ เหล่านี้สู่ลูกน้องแต่ละคน เพื่อให้เขามองโลกในมุมที่ดี และมีพลังในการทำงานมากขึ้น ในทางตรงกันข้ามหัวหน้างานหลายคนที่เป็นตัวดูดพลังของลูกน้อง ทำให้ลูกน้องหมดพลังในการทำงานก็เยอะครับ เพราะมัวแต่คิดว่า จะต้องตาม ต้องไล่บี้เอาผลงานจากลูกน้องให้ได้ โดยไม่สนใจหรือใส่ใจที่จะทำให้ลูกน้องรู้สึกดีเลย
ผมเองมองว่า ทฤษฎีในเรื่องของการบริหารคนในด้านต่างๆ นั้นเป็นเรื่องที่ดีนะครับ เป็นสิ่งที่ควรเรียนรู้ไว้ แต่บางเรื่องมันก็เป็นสิ่งที่ยากเกินกว่าการเอาไปใช้จริงในชีวิตประจำวันของ การทำงาน ซึ่งเอาเข้าจริงๆ ในชีวิตการทำงานนั้น แต่เริ่มต้นในแต่ละวันด้วยสิ่งที่ดี ด้วยบรรยากาศที่ดี ด้วยรอยยิ้ม และความรักและความจริงใจ แค่นี้ก็ทำให้การบริหารคนในทีมงานของเราดีขึ้นเยอะ และสิ่งที่ตามมาก็คือบรรยากาศที่ดีในการทำงาน ซึ่งส่งผลต่อผลงานของพนักงานและทีมงานไม่มากก็น้อยล่ะครับ

ลองเอาไปใช้ดูสิครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น