วันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

มุมมองของพนักงานที่มีต่อผู้บริหาร และผู้จัดการของตน


เรื่องของการบริหารคนในองค์กรนั้นเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน และมีความสลับซับซ้อนมาก คนที่ทำหน้าที่ในการบริหารคน ทั้งฝ่ายบุคคล และผู้จัดการสายงานในองค์กรต่างต้องทำความเข้าใจในความรู้สึกนึกคิดของ พนักงานในตนดูแลเป็นอย่างดี ว่าพนักงานคิดอะไร คิดอย่างไร เพื่อที่จะได้บริหารพนักงานได้อย่างถูกต้อง และเพื่อสร้างแรงจูงใจที่ดีให้กับพนักงานในการสร้างผลงานให้กับองค์กรในระยะยาว


ได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่ง มีชื่อว่า 30 Reasons employee hate their managers ซึ่งเขียนโดย Bruce L. Katcher และ Adam Snyder ซึ่งได้ทำงานวิจัยเกี่ยวกับความคิดเห็นของพนักงานในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะในด้านที่เกี่ยวข้องกับหัวหน้างาน และผู้จัดการ โดยไปสอบถามกับกลุ่มพนักงานที่ทำงานในองค์กรจริงๆ ว่ารู้สึกอย่างไรบ้างกับผู้จัดการ และองค์กรของตนเองบ้าง ซึ่งคำตอบที่ได้มาก็มีดังต่อไปนี้ครับ
  • 46% ของพนักงานเชื่อว่า ผู้จัดการปฏิบัติต่อพนักงานอย่างขาดความนับถือ มองพนักงานเป็นแค่เพียงเด็กๆ คนหนึ่ง บางคนเชื่อว่า ผู้จัดการมองพนักงานเหมือนเป็นทาสคนหนึ่ง อยากใช้อะไร ก็ใช้ อยากด่า ก็ด่า ไม่เคยมองพนักงานว่าเป็นคนคนหนึ่งที่เข้ามาทำงานเพื่อสร้างผลงานให้กับ องค์กรเลย แต่มองเหมือนเป็นคนใช้มากกว่า
  • 40% ของพนักงานบอกว่า ไม่เคยได้รับอำนาจในการตัดสินใจในการทำงานของตนเองเลย ทำงานไปตามคำสั่งของหัวหน้าอย่างเดียว จะคิด จะทำอะไร ก็ไม่ได้ ทั้งๆ ที่เป็นงานและเป็นความรับผิดชอบของตนเอง สุดท้ายก็เลยต้องปล่อยเลยตามเลย ทำตามคำสั่งไปเรื่อยๆ แต่พอทำแบบนี้ ก็กลับถูกหัวหน้าของตนดุด่าว่ากล่าวว่า “ทำไมเรื่องแค่นี้ถึงตัดสินใจเองไม่ได้” แล้วตกลงจะเอายังไงกันแน่
  • 52% ของพนักงานที่ทำงานในองค์กร ไม่ค่อยกล้าจะบอกความรู้สึกของตนเอง กับหัวหน้าอย่างเปิดเผย เพราะรู้สึกว่า หัวหน้ากับเขานั้นอยู่กันคนละข้างกัน หัวหน้าไม่เคยที่จะเข้าใจ ไม่เคยใส่ใจ ไม่เคยสนใจว่าพนักงานจะคิดอย่างไร ก็เลยไม่อยากที่จะพูด หรือบอกอะไรกับหัวหน้าของตนเองเท่าไรนัก ก็เลยทำให้ หัวหน้ากับลูกน้องไม่เคยที่จะเข้าใจกันสักที
  • 53% ของพนักงานมองว่า หัวหน้าของตนเองไม่เคยสร้างแรงจูงใจทางบวกเลย มักจะมีแต่เรื่องของการลงโทษ การว่ากล่าว ตักเตือน เวลาทำงานผลงานออกมาดี ก็ไม่เคยที่จะมองเห็นความสำคัญ ไม่เคยมีคำชมเชย หรือถ้ามี ก็ชมแบบขอไปที มองไม่เห็นความจริงใจ แต่พอเวลาที่ทำงานพลาด ก็ด่าจนไม่ต้องผุดต้องเกิดกันเลยทีเดียว
  • 47% ของพนักงานมองว่า เขาไม่เคยได้รับข้อมูลที่ดีในการทำงาน จากหัวหน้าของเขาเลย ทำงานได้ดี ก็ไม่เคยบอกอะไร ทำงานไม่ดี ก็ไม่เคยที่สอนว่าอะไรคือสิ่งที่ดี หรือสิ่งที่ถูกต้อง ส่วนใหญ่ก็เงียบๆ กันไป ทำงานไปเรื่อยๆ ไม่เคยรู้เลยว่า สิ่งที่ทำไปนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ หรือดีหรือไม่ อีกทั้งยังไม่เคยรู้เลยว่าจะต้องทำอย่างไรให้ผลงานดีขึ้นกว่านี้ได้
  • 51% ของพนักงานบอกว่า เขาต้องการที่จะได้รับการฝึกอบรมบ้าง เพื่อทำให้ผลงานดีขึ้น เพราะ มีแต่ทำงาน ทำงาน และทำงาน โดยที่ไม่เคยได้รับการส่งไปฝึกอบรมใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งๆ ที่บางงาน ก็ยังไม่คล่อง และไม่รู้รายละเอียดวิธีการทำงานมากนัก ควรจะต้องไปฝึกอบรมเพื่อที่จะทำให้เกิดความรู้และทักษะใหม่ๆ มาทำงานบ้าง แต่หัวหน้าก็มองแค่เพียงว่า การฝึกอบรมเป็นอะไรที่เสียเวลา ไปแล้วทำให้งานที่ทำอยู่นั้นหยุดชะงักไป
  • 54% ของพนักงานมองว่า การแจ้งผลงานตอนปลายปีนั้น ไม่มีประโยชน์อะไรเลย ทุก ปีหลังจากที่มีการประเมินผลงานแล้ว หัวหน้าก็จะต้องมีการแจ้งผลงานกับพนักงานว่า ผลงานในปีที่ผ่านมานั้นมีอะไรที่ดี อะไรที่ไม่ดี มีอะไรควรปรับปรุง พัฒนาให้ดีขึ้นได้บ้าง แต่ในทางปฏิบัติจริงกลับกลายเป็นว่า หัวหน้าไม่ได้บอกอะไรเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้เลย สิ่งที่หัวหน้าพูดในช่วงของการแจ้งผลงานนั้น แทบจะไม่มีประโยชน์อะไรกับการพัฒนาผลงานของตนเองเลย มีแต่จะทำให้พนักงานรู้สึกแย่ลงมากกว่า
นี่คือสิ่งผลจากการวิ จัย ซึ่งสอบถามจากพนักงานที่ทำงานในองค์กร ผมอ่านดูแล้วมันก็ไม่ค่อยแตกต่างกับคนในบ้านเรามากนัก เพราะเราเองก็รับวัฒนธรรมและแนวคิดในการบริหารจัดการมาจากประเทศทางตะวันตก เช่นกัน พนักงานเองก็คิดแบบเดียวกับผลการวิจัยที่ทำออกมาข้างต้น

ซึ่งเมื่อไหร่ที่พนักงานส่วนใหญ่ในองค์กรรู้สึกแบบที่ว่ามา จะทำให้องค์กรเกิดปัญหาในการบริหารจัดการมากขึ้นอย่างแน่นอน โดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างหัวหน้ากับลูกน้อง ซึ่งจริงๆ แล้วสองคนนี้จะต้องอยู่ข้างเดียวกัน ช่วยกันทำงาน ส่งเสริมซึ่งกันและกันมากกว่า เพื่อที่จะสร้างผลงานที่ดีให้กับองค์กรได้อย่างต่อเนื่อง

ไม่ใช่กลายเป็นปัญหาใหญ่ขององค์กรซะเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น