วันนี้ก็เป็นตอนที่ 4 ของเรื่องราวเกี่ยวกับ Generation ต่างๆ วันนี้จะเป็นเรื่องของแนวทางในการรักษาไว้ ซึ่งพนักงานในแต่ละ Gen ว่า เขาต้องการอะไร และองค์กรจะต้องตอบสนอง หรือวางระบบในการรักษาไว้ซึ่งพนักงานแต่ละ Gen ได้อย่างไร
ผมมองว่า เรื่องของการรักษาไว้ ซึ่งพนักงานที่มีความรู้ความสามารถ ให้ทำงานกับองค์กรนั้น เป็นสิ่งที่สำคัญมากในการบริหารธุรกิจปัจจุบัน เนื่องจากคนเก่ง มีน้อย อีกทั้งยังมักจะถูกซื้อตัวกันเป็นว่าเล่น ถ้าองค์กรไม่สามารถที่จะรักษาคนเหล่านี้ไว้ทำงานกับองค์กร เราก็จะเสียคนเก่งๆ ไปอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการเสียคนเก่งนั้นนอกจากทำให้ธุรกิจขาดช่วงแล้ว ยังถือว่าเป็นการเพิ่มต้นทุกในการบริหารคนมากขึ้นไปอีก เพราะต้องลงทุนในการสรรหาใหม่ คัดเลือกใหม่อีก เข้ามาแล้วก็ต้องลงทุนในการพัฒนาเขาอีก รวมๆ แล้ว ต้นทุนในการหา และพัฒนาคนนั้น สูงกว่าการที่เรายอมลงทุนรักษาคนเก่งไว้ในองค์กร เราลองมาดูกันว่า ในแต่ละ Gen จะมีวิธีการรักษาพนักงานได้อย่างไรบ้าง
- Baby Boomer เมื่อคน Gen นี้เข้ามาทำงาน หรืออยู่ทำงานในองค์กรมาสักพัก สิ่งที่จะรักษาไว้ซึ่งคน Gen นี้ จะประกอบไปด้วย
- Flexible Benefits ซึ่ง สามารถที่จะให้พนักงานเลือกได้ โดยคนกลุ่มนี้จะเน้นไปในเรื่องของ Health care มากกว่าคนกลุ่มอื่น เนื่องจากอายุที่มากขึ้น และต้องการความมั่นคงหลังเกษียณอายุนั่นเอง
- สภาพการทำงานที่ยืดหยุ่นมากขึ้น เช่น ยอมลงทุนทำระบบให้คนกลุ่มนี้สามารถที่จะนั่งทำงานที่บ้านได้บ้าง โดยไม่ต้องเดินทางมาทำงานที่บริษัท เพราะด้วยอายุที่มากขึ้นทำให้การขับรถ หรือการเดินทางไกลๆ อาจจะไม่สะดวก ก็สามารถยืดหยุ่นให้คนกลุ่มนี้สามารถทำงานที่บ้านโดยผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ ได้
- ให้ความยอมรับนับถือในประสบการณ์ คน กลุ่มนี้มักจะชอบให้องค์กรยอมรับนับถือเขาในฐานะผู้ที่มีประสบการณ์ในการทำ งานมานาน ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากกว่าคนอื่น ดังนั้น ถ้าเรามอบหมายงานในลักษณะที่ให้เขาได้ใช้ความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ที่มีมาเสริมสร้างคนรุ่นใหม่ให้เก่งขึ้น เขาก็จะชอบ เช่น ให้เป็น Coach หรือ ให้เป็นผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นคน certify พนักงานใหม่ ในการทำงานบางอย่าง เขาจะรู้สึกว่าองค์กรกำลังให้การยอมรับ และนับถือเขาในฐานะผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ
- ยังชอบงานที่ต้องใช้ความคิดและท้าทาย คน ส่วนใหญ่มักจะมองว่า คนกลุ่มนี้อายุเยอะแล้ว อะไรๆ ก็คงไม่สะดวกไปหมด แต่จริงๆ แล้วสมองของคนกลุ่มนี้ยังคงใช้ได้อยู่ ด้วยคน Gen นี้เองก็บอกไว้ชัดเจนว่า ต้องการงานที่อาศัยความคิดความอ่าน และมีความท้าทายมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ทำมาประจำ หรือนานๆ มาแล้ว ก็เบื่อ อยากได้งานที่ท้าทายมากกว่าเดิม คนกลุ่มนี้จะรู้สึกถึงคุณค่าของตนเองให้องค์กรมอบหมายงานโครงการบางอย่างที่ ท้าทายความสามารถของตน เพราะเขาจะรู้สึกว่าองค์กรไม่ได้ทอดทิ้งให้เขาเป็นคนแก่ ที่ทำงานไปวันๆ แต่องค์กรกำลังให้ความสำคัญกับความรู้และประสบการณ์ของเขาที่มีอยู่ มาสร้างผลงานที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนให้กับองค์กรได้
- Generation X เมื่อคน Gen นี้เข้ามาทำงาน หรืออยู่ทำงานในองค์กรมาสักพัก สิ่งที่จะรักษาไว้ซึ่งคน Gen นี้ จะประกอบไปด้วย
- สไตล์การบริหารงาน คน Gen นี้ชอบที่จะทำงานเอง โดยไม่ต้องมาสั่งมาก หรือตามมาก และไม่ต้องมาควบคุมอย่างใกล้ชิดมากเกินไป ดังนั้นสั่งงานแล้ว ก็ปล่อยให้เขาทำ คอยดูเป็นระยะๆ คน Gen นี้ต้องการ Feedback เช่นกันว่า สิ่งที่ทำไปนั้นมันดี หรือไม่ดีตรงไหน จะได้ปรับปรุงให้ดีขึ้นได้
- บรรยากาศการทำงานแบบครอบครัว คน Gen นี้เป็นคนที่รักครอบครัว ดังนั้นในการทำงานที่จะทำให้เขารู้สึกอยากทำงาน และไม่อยากลาออกไปไหนเลย ก็คือ การสร้างบรรยากาศในการทำงานแบบครอบครัว มีความเป็นพี่เป็นน้องกัน มีความสนุกสนานในการทำงานในองค์กร
- Work-Life Balance องค์กร ที่สามารถสร้างระบบ work-life balance ให้เกิดขึ้นได้นั้น จะสามารถรักษาคน gen ได้ดีมาก ระบบการทำงานให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ไม่เข้มงวดจนเกินไป หรือไม่หย่อนจนเกินไป ทำให้เขาสามารถที่จะทำงาน และสามารถที่จะให้เวลากับชีวิตส่วนตัวไปพร้อมๆ กันได้ ก็จะทำให้คน Gen นี้ไปลาออกไปไหนอย่างแน่นอน
- มีระบบการพัฒนาความก้าวหน้าทางสายอาชีพ การ รักษาไว้ซึ่งคนกลุ่มนี้ องค์กรจะต้องสร้างระบบ Career Path และระบบการพัฒนาคนอย่างต่อเนื่อง และมีความชัดเจนมากพอ คือทำงานแล้วรู้สึกว่าสามารถเติบโตไปได้เรื่อยๆ คนกลุ่มนี้อาจจะไม่ได้มองเรื่องการเติบโตเป็นลักษณะของตำแหน่งงาน แต่เขาจะมองการเติบโตก็คือ การที่เขาสามารถรับผิดชอบงานที่ใหญ่ขึ้นได้ ยากขึ้นได้ ซึ่งอาจจะไม่ได้มีชื่อตำแหน่งอะไรเลย แต่ถ้างานยากขึ้น ท้าทายขึ้น และได้พัฒนาตนเองมากขึ้น คนกลุ่มนี้ก็จะรู้สึกว่าตนเองเติบโตในองค์กร
- Generation Y เมื่อคน Gen นี้เข้ามาทำงาน หรืออยู่ทำงานในองค์กรมาสักพัก สิ่งที่จะรักษาไว้ซึ่งคน Gen นี้ จะประกอบไปด้วย
- การให้การยอมรับนับถือในความเห็น คน รุ่นนี้อายุยังไม่มาก แต่ชอบที่จะทำงาน และคิดอะไรใหม่ๆ และไม่ต้องการให้คนอื่นมองว่าเขานั้นยังเด็ก เพราะถือว่าเป็นการดูถูกเขาอย่างมาก คนกลุ่มนี้จะชอบองค์กรที่ให้ความสำคัญกับงานที่เขาทำ ความคิดที่เขาคิด และมองว่าเขาเป็นกำลังสำคัญในการสร้างความสำเร็จให้กับองค์กร ถ้าองค์กรหรือหัวหน้างานไปบริหารคนกลุ่มนี้ โดยมองว่าเขาเป็นเด็ก ไม่โต และไม่น่าจะทำงานใหญ่ได้ เขาก็จะไปทำงานที่อื่นที่ยอมรับเขานั่นเอง
- ความก้าวหน้าทางสายอาชีพที่ชัดเจน การ ที่องค์กรมีการกำหนดเส้นทางความก้าวหน้าทางสายอาชีพ และมีบอกถึงกฎเกณฑ์ และแนวทางที่จะก้าวหน้าไปตามสายอาชีพไว้อย่างชัดเจน จะทำให้ Gen Y รู้สึกว่าทำงานแล้วมีคุณค่า ดังนั้นจะไม่ไปทำงานที่อื่น ในทางตรงกันข้ามถ้าองค์กรไม่มีเรื่องเหล่านี้เลย เขาก็จะสงสัยว่าแล้วตัวเองจะโตไปไหน จะมีโอกาสเติบโตจริงๆ หรือเปล่า สุดท้ายก็ไปอยู่กับองค์กรที่มีระบบเหล่านี้ที่ชัดเจน
- มีการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม คน รุ่นนี้เติบโตมากับเทคโนโลยีต่างๆ มากมาย ก็เลยต้องการให้องค์กรมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีเครื่องไม้เครื่องมือที่เรียกว่าเป็นรุ่นล่าสุดอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นถ้าองค์กรของเรามีเรื่องของเทคโนโลยีอันทันสมัย ก็จะยิ่งทำให้คนกลุ่มนี้อยากอยู่ทำงานกับองค์กรมากขึ้น
- ต้องการ Feedback คน กลุ่มนี้เวลาทำงานด้วยจะต้องการให้คนที่เป็นหัวหน้าคอยบอกว่าผลงานที่ออกมา นั้นเป็นอย่างไรบ้าง และต้องการสิ่งเหล่านี้มากกว่า Gen X เพราะเขาต้องการให้นายให้ความสำคัญกับเขามาก มองเขาเป็นคนสำคัญคนหนึ่งองค์กร เวลาที่ทำงานสำเร็จก็อาจจะมีรางวัลเล็กๆ มอบให้ เช่น บัตรกำนัล คูปองกาแฟฟรี ฯลฯ เพื่อเป็นการบอกเขาว่า เรากำลังให้ความสำคัญกับเขาอยู่
พรุ่งนี้เราจะมาสรุปถึงแนวทางที่องค์กรจะสามารถเชื่อมโยงเอาทุก Gen เข้าด้วยกันว่าจะต้องออกแบบระบบต่างๆ อย่างไรบ้าง เน้นอะไรบ้าง และในอนาคตการบริหารทรัพยากรบุคคลที่มีคนต่าง Gen มาทำงานด้วยกันจะต้องทำอย่างไร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น