เมื่อวานได้เขียนถึงผลการสำรวจค่าจ้างเงินเดือนในเรื่องของอัตราแรกจ้างตามวุฒิการศึกษา โดยได้แสดงให้เห็นถึงอัตราแรกจ้างของวุฒิการศึกษาระดับปวช. และปวส. กันไปแล้ว วันนี้จะมาต่อเรื่องของอัตราแรกจ้างตามวุฒิการศึกษาของระดับปริญญาตรีกันบ้าง ว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรจากปีที่ผ่านมาบ้างนะครับ อัตราแรกจ้างตามวุฒิการศึกษาในระดับปริญญาตรีนั้น มีการขยับขึ้นมาด้วยสาเหตุ 2 ประการคือ
- ขยับขึ้นมาจากผลกระทบจากการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท ซึ่งทำให้ต่อเดือนขั้นต่ำสุดที่ต้องจ่ายก็คือ 9,000 บาท ซึ่งก่อนการปรับค่าจ้าง 300 บาทนั้น บางบริษัทยังมีการจ้างพนักงานวุฒิปริญญาตรีจบใหม่ที่ประมาณ 9,000 – 10,000 บาทกันอยู่เลย แต่พอปรับเป็น 300 บาทต่อวันแล้ว ก็เลยเกิดผลกระทบต่อกันเป็นระลอก
- ขยับขึ้นเนื่องจากการประกาศของภาครัฐ ที่ประกาศว่า อัตราเริ่มจ้างของผู้ที่จบวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีจะต้องเป็น 15,000 บาท ซึ่งอัตรานี้ไม่ได้บังคับใช้กับภาคเอกชนนะครับ ย้ำอีกครั้งหนึ่งนะครับว่า ไม่มีการบังคับใช้ 15,000 บาทกับภาคธุรกิจเอกชนนะครับ เพียงแต่การประกาศแบบนี้ของภาครัฐนั้นทำให้ภาคเอกชนบางแห่งจำเป็นที่จะต้องปรับอัตราแรกจ้างระดับปริญญาตรีใหม่ให้เท่ากับ 15,000 หรือสูงกว่าไปด้วย เพราะเนื่องจากหาพนักงานใหม่กันไม่ได้เลย เพราะเด็กจบใหม่ที่มาสมัครงานต่างก็ขอเงินเดือนกันที่ 15,000 กันหมด แต่อย่างไรก็ดี ขณะนี้เริ่มมีเด็กจบใหม่รับทราบกันแล้วว่า ตัวเลขนี้ใช้เฉพาะกับราชการเท่านั้น เอกชนไม่ได้บังคับ
วุฒิการศึกษา
|
สาขาวิชา
|
2554
|
2555
|
ปริญญาตรี | วิศวกรรมศาสตร์ |
15,000
|
18,000
|
วิทยาศาสตร์ |
13,000
|
15,000
|
|
คอมพิวเตอร์ |
12,750
|
15,000
|
|
บริหารธุรกิจ |
11,000
|
13,000
|
|
บัญชี |
12,000
|
14,000
|
|
สังคมศาสตร์ |
10,500
|
13,000
|
จะสังเกตเห็นว่าตัวเลขอัตราแรกจ้างระดับปริญญาตรี ของทุกวุฒิการศึกษานั้น ขยับขึ้นหมด ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ปรับขึ้นก็อยู่ที่ประมาณ 17%โดยเฉลี่ย ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ขยับขึ้นค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับอัตราแรกจ้างในปีที่ผ่านมา
ผลการสำรวจค่าจ้างออกมาเป็นตัวเลขแบบนี้ เวลาที่จะนำเอาไปใช้ในการกำหนดอัตราแรกจ้างของบริษัทเราเองก็คงต้องดูรายละเอียดเพิ่มเติมด้วยนะครับว่า คนของเราที่เราต้องการนั้น เราแข่งขันในการจ้างคนกับองค์กรแบบใด และเขาจ่ายอยู่เท่าไหร่ ถ้าเราต้องแข่งกับราชการ เราก็คงจะกำหนดต่ำกว่า 15,000 บาทไม่ได้ เพราะจะไม่มีใครอยากมาทำงานกับเรา
หรือถ้าองค์กรของเราเคยจ่ายอัตราแรกจ้างที่สูงอยู่แล้ว อัตราที่สำรวจมานั้นยังต่ำกว่าที่เราให้ ก็ไม่ต้องตกใจครับ เราอาศัยตัวเลข% ที่ขยับขึ้นเป็นตัวช่วยในการกำหนดอัตราแรกจ้างก็ได้ครับ เช่น ถ้าเราเคยจ้างวิศวกรในปี 2554 อยู่ที่ 18,000 บาท (ซึ่งสูงกว่าตลาดที่ 15,000 บาท) ปีนี้ตลาดบอกว่าเป็น 18,000 บาท ถ้าเราไม่ขยับเลย ก็ไม่จะไม่ค่อยถูกต้องนัก เพราะเราเองเคยเหนือกว่าตลาดอยู่ในอดีต ดังนั้นเราก็อาจจะใช้ตัวเลข 20% ที่ขยับขึ้นของอัตราแรกจ้างวิศวกรเป็นตัวคำนวณก็ได้ครับ ในกรณีนี้เราก็อาจจะกำหนดอัตราแรกจ้างจาก 18,000 เป็น 21,500 บาทนั่นเองครับ
ในยุคปัจจุบันนี้ มีคนจบการศึกษาในระดับปริญญาตรีเยอะมาก ซึ่งทำให้อัตราแรกจ้างของวุฒิการศึกษานี้มีความหลากหลายมากขึ้น บางองค์กรตั้งเป้าหมายว่าจะต้องได้คนที่จบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของรัฐเท่านั้น ก็กำหนดอัตราที่สูงกว่า องค์กรที่กำหนดว่าไม่ต้องถึงกับมหาวิทยาลัยชั้นนำก็ได้ ซึ่งจริงๆ แล้วคงอยู่ที่เป้าหมายของพนักงานที่เราต้องการว่าเราต้องการคนแบบไหนที่เข้ามาทำงาน และเราแข่งการจ้างคนแบบนั้นกับองค์กรใดบ้าง และต้องดูต่อว่าองค์กรเหล่านั้นเขามีการกำหนดอัตราแรกจ้างกันไว้เท่าไหร่ เราเองก็คงต้องกำหนดให้สามารถแข่งขันได้
เพื่อสุดท้ายแล้วจะได้สามารถดึงดูด และรักษาพนักงานที่มีฝืมือให้ทำงานกับบริษัทนั่นเองครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น