มีเรื่องราวของพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของคนที่ถือได้ว่าเป็นผู้ใหญ่มากๆ มาเล่าให้อ่านกัน คำว่าผู้ใหญ่มากๆ นี่ต้องนิยามกันสักนิด ก็คือ คนที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปแล้ว แต่ยังคงมีแรงที่จะทำงานอยู่ในองค์กร ด้วยความที่เป็นผู้ใหญ่ที่มีวัยวุฒิ ก็อาจะทำให้หลายๆ คนในองค์กรให้ความเคารพ และให้แก่อายุที่มากกว่า ก็เลยไม่ค่อยอยากจะมีปัญหาอะไรด้วย
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้ใหญ่ที่ว่านี้ กลับไม่ราบรื่นอย่างที่ควรจะเป็น ด้วยที่มีอายุที่มาก ก็เลยคิดว่าตนเองมีประสบการณ์ในการทำงานนั้นมาก่อน คิดว่าตัวเองเก่งมาก และมีความสามารถมากกว่า เด็กรุ่นใหม่ๆ ที่มักจะถูกปรามาสจากผู้ใหญ่นี้ว่า เป็นพวกเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ไม่เคยทำอะไรสำเร็จ
พฤติกรรมที่ผู้ใหญ่ที่ว่า ไม่เคยมีความเป็นผู้ใหญ่เลย มีอะไรบ้าง อยากรู้มั้ยครับ มาดูกันครับ
- มองว่าตนเองถูกเสมอ พฤติกรรมแรกที่ผู้ใหญ่ที่ว่า มักจะแสดงออกให้เห็นบ่อยๆ ก็คือ มีความมั่นใจในตัวเองที่สูงมาก มากจนมาบดบังความน่าจะเป็น และโอกาสดีๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต เพราะผู้ใหญ่เหล่านี้มักจะมีคำพูดว่า “เคยทำมาแล้ว ไม่เคยสำเร็จ” หรือ “สิ่งที่จะทำนั้นได้ทำมาหมดแล้ว ไม่ต้องไปลองมันอีก เสียเวลา ไม่สำเร็จหรอก” ฯลฯ จริงๆ แล้วเราเองก็เคารพในประสบการณ์ที่ผู้ใหญ่เหล่านี้มีมา แต่สิ่งที่มักจะเป็นก็คือ เขาจะใช้เหตุผลนี้กับทุกเรื่องที่เราคิดไม่ตรงกับเขา นี่คือประเด็น เหมือนกับว่า ถ้าคิดอะไรแตกต่างไปจากที่เขาคิด เขาก็จะใช้เหตุผลนี้เข้ามาอ้าง เพราะอาจจะไม่รู้จะไปหาเหตุผลอะไรมาอ้างก็ได้ ก็เลยเอาความเป็นผู้ใหญ่เข้าข่ม แต่ถ้าเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพ เขาจะรับฟัง และจะพยายามสอบถามถึงแง่มุมต่างๆ ที่น่าสนใจ แม้ว่าเรื่องนั้นจะเคยไม่ประสบความสำเร็จมาก่อนก็ตาม เพราะผู้ใหญ่ที่ดีมักจะคิดว่า มันเป็นคนละเงื่อนไขเวลา และเงื่อนไขปัจจัยภายนอกที่ไม่ตรงกันกับในอดีตแล้ว เพียงแต่เขาจะให้ความเห็น และคำแนะนำที่ดี เพื่อให้เราจะได้ไม่ผิดพลาดตามที่เขาเคยพลาดมาก่อน มากกว่าที่จะเถียงหัวชนฝา เพราะแค่เพียงคิดไม่ตรงกับเขา
- ต่อหน้าไม่กล้าพูด แต่ลับหลังทำเป็นเก่ง ผู้ใหญ่ ประเภทนี้น่ากลัว เวลาที่อยู่ต่อหน้า ก็ยิ้มแย้มแจ่มใสกับเรา ชื่นชมเราอย่างนั้นอย่างนี้ แต่พอลับหลังกลับกลายเป็นตรงกันข้าม นินทาเราลับหลัง เราเรื่องความผิดพลาดของพนักงานไปเล่าให้คนอื่นๆ ฟัง เพื่อที่จะบอกเป็นนัยกับพนักงานคนอื่นว่า เขารู้เรื่องราวที่ไม่ดีของคนอื่นมามากมาย และสนุกปากไปกับการทำลายคนอื่น บางครั้งเรื่องราวไม่ได้มีอะไรเลย แต่โดนผู้ใหญ่เหล่านี้ เสริมเติมแต่ง ใส่ไข่ ใส่สี กันจนไม่เห็นเรื่องจริงว่ามันเป็นอย่างไร บางคนหนักไปกว่านั้น เอาความเป็นผู้ใหญ่ของตัวเองไปใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น ซึ่งทำให้เกิดความแตกแยกกันในทีมงาน ปากก็บอกว่าอยากให้ทำงานกันเป็นทีมไม่แบ่งก๊กแบ่งเหล่า แต่พฤติกรรมของตนเองกับส่งเสริมยุแยงให้คนอื่นเขาแตกแยกกันเสียเอง ผู้ใหญ่เหล่านี้เขาไม่เคยทราบเลยมั้งครับว่า ตัวเองก็โดนคนอื่นเขานินทาเหมือนกัน และคนอื่นเองก็ไม่ได้เคารพทั้งต่อหน้าและลับหลังเช่นกัน ต่อหน้าก็ยิ้มแย้มแจ่มใส แต่ลับหลัง ก็โดนพนักงานนินทาเช่นกัน ว่า เป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ได้เรื่องเลย
- นำเสนอเก่ง แต่ไม่เคยทำงานสำเร็จสักอย่าง พฤติกรรม อีกอย่างของผู้ใหญ่เหล่านี้ ก็คือ เวลาที่ประชุมงาน หรือนำเสนองาน มักจะมีเทคนิควิธีการพูดที่แพรวพราว และทำให้คนอื่นเคลิ้มเสมอ แต่ปัญหาก็คือ สิ่งที่เขาพูด เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยทำมาก่อนเลยด้วยซ้ำไป บางครั้งพูดออกมาดีไปหมด แต่การกระทำกลับเป็นตรงกันข้าม หรือในบางกรณี โม้ว่าตัวเองเก่ง และทำได้ แต่พอถึงเวลาทำจริงกลับทำไม่ได้อย่างที่พูด ยิ่งไปกว่านั้น ยังเอาสีข้างเข้าถูต่อ เพื่อที่จะหาข้ออ้างต่างๆ นานา มาบอกกับเราว่าที่เขาทำไม่ได้ไม่ใช่เพราะเขาไม่เก่ง แต่เป็นการโทษคนอื่นบ้าง โทษลมฟ้าอากาศบ้าง สุดท้ายก็คือ เขาเก่งนั่นแหละ ทั้งๆ ที่ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นไม่ได้เรื่องเลยสักนิด ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าย้อนกลับไปดูผลงานในอดีตอย่างจริงจัง ก็จะพบว่า ดีแต่พูดอย่างเดียวจริงๆ ไม่เคยสร้างอะไรได้สำเร็จด้วยตัวเองเลยสักอย่าง
- เล่นพรรคเล่นพวก ถ้า เป็นพรรคพวกของตนแล้ว อะไรก็ถูกไปหมด แต่ถ้าไม่ใช่พวกเดียวกัน ก็จะถูกผู้ใหญ่เหล่านี้เพ่งเล็ง และตรวจสอบกันอย่างหนักทีเดียว บางครั้งพนักงานทำงานแบบเดียวกัน ด้วยพฤติกรรมแบบเดียวกัน แต่คนที่เขารัก กลับไม่ถูกตำหนิอะไรเลย ส่วนคนที่ไม่ใช่ที่รัก กลับถูกสอบสวน และตรวจสอบ รวมทั้งอาจจะลงโทษอย่างที่ไม่เป็นธรรม แบบนี้เรียกกว่าเลือกปฏิบัติกันอย่างเต็มที่ และพวกผู้ใหญ่เหล่านี้ ก็ไม่สนใจ ไม่แคร์ใครด้วย ฉันจะทำแบบนี้ใครจะทำไม คงคิดว่าไม่มีใครกล้าทำอะไรเขา ยิ่งไปกว่านั้นพอมีพรรคพวกเดียวกัน คุยกันถูกคอคราวนี้ยิ่งไปกันใหญ่ กลายเป็นผู้ใหญ่จับกลุ่มนินทาคนอื่นอย่างออกรส ก็เลยยิ่งสร้างความแตกแยกกันมากขึ้นไปอีก
พนักงานบางคนก็แถมท้ายไว้ว่า รอให้ผู้ใหญ่เหล่านี้จากโลกนี้ไปเสียก่อน แล้วทุกอย่างก็คงดีขึ้น (แรง)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น