พูดถึงเรื่องของการสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงานนั้น ปกติก็จะมีอยู่ 2 แนวทางใหญ่ ก็คือ การสร้างแรงจูงใจทางบวก กับการสร้างแรงจูงในในทางลบ แบบไหนที่จะได้ผลดีกว่ากัน ผมเคยลองถามคำถามนี้กับกลุ่มหัวหน้าและและผู้จัดการต่างๆ ร้อยทั้งร้อยตอบกว่า การสร้างแรงจูงใจทางบวกมีผลดีมากกว่าทางลบ แต่ทำไมยังคงมีผู้จัดการที่เน้นการสร้างแรงจูงใจในเชิงลบเหลืออยู่อีกล่ะครับ
การสร้างแรงจูงใจเชิงลบ
โดยทั่วไปแล้วการสไตล์การบริหารงานของผู้จัดการแต่ละคนนั้นมักจะไม่เหมือนกัน ในการกระตุ้นและจูงใจให้ลูกน้องสร้างผลงานที่ดีนั้น ผู้จัดการบางคนก็ใช้วิธีการสร้างความกลัวให้เกิดขึ้นในใจของพนักงาน เพราะประสบการณ์ของผู้จัดการเหล่านี้ ประสบมากับตัวเอง และมักจะมาเล่าให้คนอื่นฟังอยู่เสมอว่า ในการบริหารจัดการของเขานั้นเขาจะพยายามทำให้พนักงานเกิดความกลัว กลัวว่าจะถูกตำหนิ กลัวว่าจะถูกประจานผลงานต่อหน้าคนอื่น กลัวว่าจะไม่ได้รับการขึ้นเงินเดือน กลัวว่าจะถูกลงโทษ ฯลฯ และด้วยความกลัวเหล่านี้เองที่เป็นแรงผลักดันให้พนักงานสร้างผลงานที่ดีขึ้นอยู่เสมอ ดังนั้นการจูงใจพนักงานให้สร้างผลงานที่ดีขึ้นก็ด้วยวิธีการทำให้พนักงานกลัวมากขึ้นเรื่อยๆ ผลงานก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ นื่แนวคิดของผู้จัดการแบบแรก
การสร้างแรงจูงใจเชิงบวก
เมื่อเทียบกับผู้จัดการอีกลักษณะหนึ่งซึ่งมีสไตล์ในการบริหารและกระตุ้นจูงใจโดยใช้การเสริมแรงเชิงบวกเข้ามา พยายามจะใช้วิธีการสร้างพลังให้กับพนักงานโดยอาศัย การเข้าใจ และการให้ความใส่ใจในผลงานของลูกน้อง การให้ความชื่มชมในผลงานที่ออกมา เพื่อกระตุ้นและสร้างพลังให้พนักงานอยากที่จะทำดีแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ
2 แนวทางข้างต้นนี้ ท่านผู้อ่านคิดว่าแนวทางไหนที่น่าจะสร้างพลังงานและสร้างแรงจูงใจได้มากกว่ากัน
ผมเชื่อว่ามีหลายท่านที่ตอบว่า อยู่ที่ตัวลูกน้องของเราเองว่าเขาเป็นคนอย่างไร และมีสไตล์การทำงานแบบไหน เราในฐานะหัวหน้าก็คงต้องเลือกวิธีการให้เหมาะกับสไตล์การทำงานของลูกน้องเราด้วยเช่นกัน ซึ่งคำตอบนี้ก็เป็นคำตอบที่ถูกต้องครับ
แต่อย่างไรก็ดี ถ้าเรามีแต่การจูงใจโดยการสร้างความกลัวให้กับพนักงานอย่างเดียวนั้น ผลที่เกิดขึ้นก็คือ พนักงานจะเกิดความเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ และสุดท้ายจะไม่มีใครที่ทนทำงานแบบนี้ได้ในระยะยาวๆ เพราะโดยธรรมชาติของคนเรานั้น ไม่ชอบความกลัวอยู่แล้วนะครับ การทำให้พนักงานกลัวมากๆ จึงเป็นการฝืนธรรมชาติ การที่จะใช้วิธีนี้ในการสร้างผลงานระยะยาวขององค์กรจึงไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง
ดังนั้นถ้าเราจะทำให้พนักงานกลัวก็ควรจะทำเป็นช่วงสั้นๆ และเลือกเรื่องที่จะทำให้กลัว ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นเรื่องของการปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับต่างๆ ถ้าไม่ทำ ก็ถูกลงโทษ เป็นต้น ไม่ใช่ทำให้พนักงานกลัวทุกเรื่องเลย แบบนี้จะไม่ดีต่อการทำงานอย่างแน่นอน
แต่ถ้าเป็นเรื่องการสร้างผลงานที่ดีนั้น เราไม่ควรจะจูงใจพนักงานโดยการสร้างความกลัวให้เกิดขึ้น ในทางตรงกันข้าม การที่จะทำให้พนักงานสร้างผลงานที่ดีอย่างต่อเนื่องในระยะยาวนั้น การจูงใจด้วยการให้ความสำคัญกับพนักงาน การชื่มชม และยอมรับในผลงานของพนักงานนั้น จะมีผลในระยะยาวมากกว่าอย่างแน่นอนครับ
ถ้าไม่เชื่อลองทำดูก็ได้นะครับ ลองดุพนักงานทุกวันสิครับ ทำให้เขากลัวเรามากๆ ผลก็คือ เกร็ง ทำงานแล้วจะรนมาก จนทำผิดมากมาย เข้าไปจี้งานบ่อยๆ ก็จะเกิดอาการอึดอัด และไม่สบายใจ ร้อนรนไปหมด
แต่ถ้าเราให้ความเชื่อใจในตัวพนักงาน และส่งเสริมให้เขาสร้างผลงานที่ดี โดยการให้คำชม ทำให้เขารู้ว่าเรากำลังสนใจสิ่งที่เขาทำอยู่ และติดตามสอบถามความคืบหน้าอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งเวลาที่งานออกมาดี ก็มีคำชมอย่างจริงใจให้กัน จนสุดท้ายทำให้เขารู้ว่า เราเชื่อมือเขามาแค่ไหน ผลที่ออกมานั้นก็คือ พนักงานคนนี้จะพยายามสร้างผลงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และพยายามจะหาวิธีการทำงานใหม่ๆ เพื่อทำให้ผลงานดีขึ้นไปอีก
แล้วท่านผู้อ่านล่ะครับ เลือกวิธีไหนในการสร้างแรงจูงใจให้กับลูกน้องของตนเองครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น