วันนี้จะขอคุยเรื่องของประเด็นสมรรถนะ หรือ Competency ที่หลายๆ องค์กรมีการนำเอาไปใช้เพื่อที่จะสรรหาคัดเลือกพนักงาน พัฒนาพนักงาน รวมถึงการประเมินผลงานงานพนักงานด้วย มี competency อยู่ตัวหนึ่งซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมาก ว่าจะพิจารณาอย่างไร ก็คือเรื่องของ ความทุ่มเททำงานให้กับองค์กร
มีข้อถกเถียงกันมากมายในเรื่องของความทุ่มเท ว่าพฤติกรรมแบบไหนของพนักงานที่เรียกว่ามีความทุ่มเททำงานให้กับองค์กร หลายองค์กรที่กำหนดพฤติกรรมหลักในการทำงานว่า พนักงานจะต้องมีความทุ่มเททำงาน แล้วเราจะประเมินอย่างไรว่าพนักงานมีความทุ่มเทสักแค่ไหน
ลองมาดูมุมมองของผู้บริหารส่วนใหญ่ ที่ผมเคยได้ทำ workshop ในเรื่องของ ความทุ่มเทของพนักงานดูว่ามีมุมมองต่อเรื่องนี้อย่างไรกันบ้าง
- พฤติกรรม ของพนักงานที่มีความทุ่มเทก็คือ พนักงานที่มาทำงานก่อนเวลาเข้างาน และอยู่ทำงานจนดึกดื่น เพื่อให้งานสำเร็จ ต้องทำงานหนัก ไม่มีการหยุดพักใดๆ เชื่อมั้ยครับว่า ผู้บริหารส่วนใหญ่มองพนักงานที่มีความทุ่มเท โดยดูจากเวลาการมาทำงาน และเวลาการกลับบ้านของพนักงาน
คำตอบที่ผมได้รับมาก็แบ่งออกเป็น 2 ด้านใหญ่ๆ ก็คือ
- วัดได้ โดย ผู้บริหารที่เชื่อแนวทางนี้ให้เหตุผลว่า เวลาการทำงานเป็นสิ่งที่บอกเราได้อย่างชัดเจนว่า พนักงานมีความตั้งใจ และทุ่มเททำงานมากน้อยเพียงใด คนที่มาทำงานก่อนเวลา มาถึงบริษัทแต่เช้า แสดงว่าเขามีความตั้งใจมากที่จะมาทำงาน และนอกจากนั้นยังอยู่ทำงานจนดึกดื่น เพื่อให้งานเสร็จ นี่ก็ยิ่งแสดงให้เราเห็นได้ว่า เขามีความตั้งใจ และทุ่มเทแรงกายแรงใจในการทำงานอย่างมากมาย เมื่อเทียบกับพนักงานที่มาทำงานแบบตรงเวลาเป๊ะๆ และพอถึงเวลาเลิกงานก็เดินออกจากบริษัทแบบตรงเวลาอีกเช่นกัน แสดงว่าพนักงานกลุ่มนี้ไม่มีความตั้งใจมากพอ และไม่มีความทุ่มเทมากพอเมื่อเทียบกับพนักงานกลุ่มแรกที่กล่าวไป
- ไม่น่าจะใช้วัดได้ ผู้ บริหารอีกกลุ่มหนึ่งมองว่า การเอาเวลาการทำงานมาวัดความทุ่มเทในการทำงานของพนักงานนั้น ไม่น่าจะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะก็มีพนักงานหลายคนที่มาถึงบริษัทแต่เช้า แต่ก็ไม่ได้เริ่มทำงาน แค่เพียงมาตอกบัตรและลงไปเดินเล่น กว่าจะเริ่มลงมือทำงานบางครั้งยังเริ่มลงมือทำงานช้ากว่าพนักงานที่มาทำงาน ตรงเวลาเสียอีก ยิ่งไปกว่านั้น ตอนเย็นก็อยู่ทำงานต่อ ก็ไม่ได้พิสูจน์ว่า เขาทุ่มเท เพราะที่เขาต้องอยู่ทำงานจนดึกดื่นก็เพราะ พนักงานคนนั้นทำงานไม่ได้ หรืออาจจะไม่มีทักษะมากพอ ก็เลยต้องใช้เวลามากกว่าคนอื่นที่เขาทำได้เก่งแล้ว หรือพนักงานบางคนที่อยู่บริษัทจนดึกดื่น จริงๆ แล้วก็ไม่ได้นั่งทำงานเลย นั่งทำอย่างอื่นมากกว่า ซึ่งก็เป็นการสิ้นเปลืองไฟฟ้าของบริษัทมากขึ้นอีกด้วย ผิดกับพนักงานที่ทำงานอย่างชาญฉลาด ใช้สมองทำงาน มีการวางแผนการทำงานอย่างดี มาทำงานตรงเวลา แล้วก็ลุยทำงานไปเรื่อย จนกระทั่งงานเสร็จก่อนเวลา พอถึงเวลาเลิกงานก็กลับบ้านได้อย่างสบายใจ
จริงๆ แล้วการที่พนักงานอยู่ทำงานมืดค่ำ นั้นมีอยู่หลายลักษณะครับ
- อยู่ทำงานจริงๆ เนื่องจากปริมาณงานเยอะมาก ทำยังไงก็ไม่เสร็จในแปดชั่วโมง ต้องทำต่อไปเรื่อยๆ จนเสร็จ ถ้าเป็นลักษณะนี้ ปัญหาคงไม่ได้อยู่ที่ทุ่มเทหรือไม่ทุ่มเทแล้วล่ะครับ แต่อยู่ที่บริษัทอาจจะมีกำลังคนไม่เพียงพอในการทำงานจนทำให้พนักงานต้องนั่ง ทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำ ทำแบบนี้ไปนานๆ เข้า ก็มีแต่เสียนะครับ สุขภาพก็จะเสีย ผลงานก็จะเริ่มแย่ลง เพราะสุขภาพไม่เอื้ออำนวย
- อยู่ทำงาน เพราะทำไม่เป็น อีกสาเหตุที่ทำให้พนักงานอยู่ทำงานแบบไม่เลิกเลย ก็อาจจะเป็นว่า พนักงานคนนั้นยังขาดทักษะในการทำงาน ก็เลยทำให้เวลาแปดชั่วโมงที่มีอยู่นั้น ไม่สามารถจัดการงานให้สำเร็จลงได้ ก็เลยต้องนั่งคลำและหาวิธีการทำงานแบบค่อยๆ ไป
- อยู่ดึก แต่ไม่ได้ทำงาน อีก ประเภทก็คืออยู่ดึกจริงๆ แต่ไม่ได้ทำงานอะไรเลย อยู่นั่งเล่น นั่งทำงานรายงานของตัวเองส่งเพราะกำลังเรียนต่อ หรืออยู่เพราะไม่อยากกลับบ้าน หรือรอรถหายติด บางคนเวลาทำงานก็ไม่ยอมทำ ปล่อยเวลาให้เสียเปล่าไป แต่พอใกล้ๆ เลิกงานก็เริ่มมานั่งทำงาน พนักงานกลุ่มนี้โดยมาจะมีสิทธิได้ค่าล่วงเวลา ก็เลยเอาเปรียบบริษัทตรงจุดนี้
นอกนั้นก็คงต้อง ดูจากพฤติกรรมจริงๆ ที่พนักงานแสดงออกในการทำงานว่าที่เขาทำงานนั้น เป็นเนื้องานสักเท่าไหร่ หรือจริงๆ แล้วใช้เวลางานไปกับการทำอย่างอื่นมากกว่า
ก็คงต้องเอาทั้งพฤติกรรมที่เห็น และผลลัพธ์ของงานที่ออกมา มาเป็นตัววัดว่าพนักงานมีความทุ่มเทสักแค่ไหน
และคงไม่ใช่มองแค่เรื่องของเวลาการมาทำงานแต่เช้าตรู่ และกลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ มาเป็นตัวบอกว่าพนักงานทุ่มเท
หรือท่านผู้อ่านคิดอย่างไรครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น