เคยรู้สึกบ้างมั้ยครับว่า บางครั้งผู้บริหารขององค์กรเราก็รอให้มันสายเกินไปก่อนที่จะตัดสินใจปรับปรุงระบบ HR ให้ดีขึ้น ด้วยเหตุผลแค่เพียงว่า มันเป็นต้นทุนในการบริหารจัดการที่สูง และไม่สามารถมองเห็นผลตอบแทนจากการลงทุนในเรื่อง HR นี้ในระยะสั้นๆ ได้ ก็เลยทำให้ผู้บริหารบอกปัดเรื่องของการวางระบบ HR ไปเรื่อย จนมันเริ่มสายเกินไป
เราลองมาดูกันนะครับว่า มีระบบอะไรบ้างที่ผู้บริหารมักจะรอจนมันยากที่จะปรับปรุงแก้ไขได้แล้ว ค่อยตัดสินใจมาทำระบบให้มันดีขึ้น
- ระบบบริหารค่าจ้างเงินเดือน ผู้บริหารบางคนยังมองไม่เห็นความสำคัญของการทำระบบบริหารค่าจ้างเงินเดือนให้เป็นธรรม และเป็นระบบมากขึ้น ก็เลยบริหารเงินเดือนกันแบบตามความรู้สึกของตนเอง รู้สึกว่าจ่ายได้ดีแล้ว รู้สึกว่าจ่ายได้สูงแล้ว ล้วนแต่รู้สึกไปเองทั้งสิ้น พอ HR เริ่มเตือนว่า ตอนนี้น่าจะเป็นเวลาที่ทำระบบการบริหารค่าจ้างเงินเดือนให้ดีขึ้น ผู้บริหารก็ไม่ฟัง เพราะคิดว่า ระบบที่ใช้อยู่นั้นดีอยู่แล้ว จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไป คนเก่งของบริษัทเริ่มทยอยลาออกไปทำงานที่อื่นกันหมด เหลือแต่พนักงานที่ทำงานไปวันๆ ก็เพิ่งจะรู้สึกตัวว่า เราต้องมาปรับปรุงระบบบริหารค่าจ้างเงินเดือนให้ดีขึ้น
- ระบบ Career Path ระบบนี้ก็เป็นอีกระบบหนึ่งที่มักจะถูกมองข้ามไป ผู้บริหารก็มักจะมองว่า พนักงานเองก็สามารถเติบโตไปได้ตามสายการบังคับบัญชานี่แหละ ไม่เห็นจะต้องไปทำอะไรให้มันยุ่งยากเลย แล้วก็ปล่อยให้การเติบโตของพนักงานเป็นไปอย่างไม่มีระบบอะไร เมื่อทำงานครบตามจำนวนปีที่กำหนด ก็มีการเลื่อนตำแหน่งให้ โดยที่ไม่ได้มีการเตรียมความพร้อมอะไรให้กับพนักงาน ถึงเวลาก็เลื่อนไปตามสายการบังคับบัญชา พนักงานงานตำแหน่งทำงานคนเดียว ก็ปรับตำแหน่งให้เป็น supervisor บ้าง และเมื่อทำงานได้ครบตามจำนวนปี ก็ปรับให้เป็นผู้จัดการบ้าง บางแห่งหนักไปกว่านั้นก็คือ ไม่มีตำแหน่งให้ไปแล้ว ก็เลยสร้างกล่องขึ้นมาใหม่ เพื่อทำให้พนักงานขยับตัวขึ้นไปได้ตามจำนวนปีที่ทำงานกับบริษัท จนสุดท้ายการเป็นมั่วไปหมดทั้งบริษัท ก็เลยตัดสินใจให้ HR เข้ามาดำเนินการเรื่องของการทำ Career Path ให้มันชัดเจน กรณีแบบนี้จะเริ่มทำยากขึ้นเรื่อยๆ เพราะพนักงานเริ่มยึดติดกับระบบเดิมๆ ของบริษัท
- ระบบการพัฒนาพนักงาน ผู้บริหารบางองค์กรก็มองเรื่องการพัฒนาพนักงานเป็นเรื่องรอง กล่าวคือ จังหวะตอนนี้กำลังขายได้ดี เศรษฐกิจขาขึ้น ก็พยายามให้พนักงานทำงานหนักเพื่อที่จะสร้างผลงาน สร้างยอดขาย สร้างกำไร พอ HR แจ้งไปว่า จะต้องมีการพัฒนาพนักงานเพื่อรองรับการเติบโตต่อเนื่องในอนาคต ผู้บริหารก็ตอบกลับมาว่า “ช่วงนี้กำลังเป็นช่วงขาขึ้น อบรมไว้ก่อนดีกว่า เสียเวลาทำงาน” ก็เลยไม่มีการอบรม หรือพัฒนาพนักงานอะไรเลย ทำกันแต่งาน พอถึงช่วงที่องค์กรจะต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะเศรษฐกิจสังคม และเทคโนโลยี ก็กลายเป็นว่า ไม่มีพนักงานคนไหนที่มีความรู้ความสามารถมากพอที่จะนำพาบริษัทไปในทิศทางที่ผู้บริหารต้องการได้ สุดท้ายก็เลยหันมาคุยกับ HR ว่า จะต้องมีระบบการพัฒนาพนักงานที่ดี (คิดช้าไปหรือเปล่า)
- ระบบสวัสดิการและค่าตอบแทนอื่นๆ บางบริษัท HR นำเสนอเรื่องราวของการปรับปรุงระบบสวัสดิการใหม่ เพื่อให้ทันต่อการแข่งขันภายนอก แต่ผู้บริหารกลับมองเรื่องต้นทุนมากเกินไป ก็เลยทำให้ข้อเสนอของ HR ตกไป ในขณะเดียวกันตลาดภายนอกก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงระบบสวัสดิการแบบใหม่ๆ ที่ทันสมัยทันต่อเหตุการณ์ ต้องรอจนพนักงานเรียกร้อง และขอลาออกเพื่อไปทำงานที่อื่น ผู้บริหารจึงค่อยตัดสินใจให้ในสิ่งที่พนักงานต้องการ แต่มันก็สายเกินไปแล้ว เพราะพนักงานรู้สึกว่า ผู้บริหารไม่ใส่ใจดูแลพนักงานจริงๆ เพราะต้องให้เรียกร้องถึงจะให้
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเราตัดสินใจทำอะไรที่ช้าเกินไป หรือรอให้เกิดปัญหาขึ้นก่อนแล้วค่อยคิดจะทำ ผมคิดว่าในยุคสมัยนี้ จะแก้ไขอะไรได้ยากมากขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่ควรจะทำก็คือ ให้คิดล่วงหน้าไปก่อน มองสถานการณ์ของธุรกิจให้ออก และใช้เป้าหมายของบริษัทเป็นหลักในการวางระบบ HR ให้สอดคล้องไปกับเป้าหมายขององค์กร
ที่สำคัญต้องเปลี่ยนมุมมองว่า ถ้าเราทำให้พนักงานของเรามีความสุขในทุกด้าน ก่อนที่พนักงานจะมาร้องขอ พนักงานเองก็จะทุ่มเททำงานให้กับองค์กรอย่างดี เพราะเขาจะรู้สึกว่า ผู้บริหารของบริษัทมีความใส่ใจในเรื่องของพนักงานโดยไม่ต้องรอให้พนักงานมาเรียกร้องก่อนในทุกเรื่อง เข้าข่ายวัวหายแล้วค่อยมาล้อมคอก เพราะมันจะทำให้เสียความรู้สึกของพนักงานอยู่มากเหมือนกัน
องค์กรของท่านก็เช่นกันนะครับ อย่าปล่อยให้สายเกินไปที่จะตัดสินใจทำอะไรสักอย่างที่เกี่ยวข้องกับระบบ HR
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น