ช่วงนี้เป็นช่วงที่นิสิตนักศึกษาเรียนจบ และกำลังที่จะหางานทำ บางคนก็ได้งานกันไปบ้างแล้ว บางคนก็กำลังรอนัดสัมภาษณ์งานกันอยู่ พนักงานที่มีประสบการณ์ในการทำงานบ้างก็อาจกำลังคิดเปลี่ยนงานใหม่ เพื่อให้ได้งานที่มีเงินเดือนและค่าตอบแทนที่ดีขึ้น หรือได้งานที่ตัวเองชอบมากขึ้น
แต่อย่างไรก็ดี เคยคิดหรือไม่ครับว่า การที่เราเริ่มต้นทำงานใหม่ กับบริษัท ในฐานะที่เราเป็นพนักงานใหม่ เราควรจะปฏิบัติตัวอย่างไร เพื่อให้เป็นพนักงานที่ดี ผมเชื่อว่าบางคนก็ทำงานลุยแหลก ปฏิบัติตามคำสั่งของนาย ทำพฤติกรรมที่ดีให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมของบริษัท ขยันขันแข็ง ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดีทั้งสิ้น แต่ถ้าเราอยากจะเป็นพนักงานที่มีศักยภาพ และสร้างผลงานที่ดีให้กับบริษัทได้อย่างรวดเร็ว สิ่งที่เราควรจะทำมีดังนี้ครับ
- ศึกษาและเรียนรู้งานที่เราต้องทำให้ได้เร็วที่สุด โดย วิธีการเรียนรู้ที่ดีที่สุดก็คือ การถาม ถามหัวหน้าของเราเองให้มากที่สุด เพื่อให้เราได้ข้อมูลที่ครบถ้วน เพื่อให้งานที่เราทำนั้นไม่ผิดพลาด บางคนปากหนักไม่ค่อยถาม และชอบคิดว่า ตนเองเก่ง มีความสามารถพอที่จะทำได้ (ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ผิด) แต่สุดท้ายก็ทำงานออกมาไม่ได้ตามที่หัวหน้าต้องการเพราะเรากับหัวหน้าคิดกัน ไปคนละทาง และถ้าเราจะรอให้หัวหน้ามาบอก เพราะคิดว่านี่คือหน้าที่ของเขา มันก็ไม่ Proactive พอ ดังนั้นถ้าเราอยากจะสร้างผลงานที่ดีในทันที สิ่งแรกที่ควรจะทำก็คือ “ถาม” ถามทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับงาน ไม่ต้องกลัวว่าหัวหน้าจะว่าเราไม่เก่ง ไม่รู้ แต่ถ้าไม่อยากให้หัวหน้าคิดแบบนั้น ก็คงต้องตกลงกับหัวหน้าของเราตั้งแต่วันแรกที่เข้าทำงานว่า ช่วง 2 แรกนี้จะมีคำถามเยอะหน่อย เพราะไม่อยากให้งานออกมาผิดพลาด ผมคิดว่าถ้าเราหารือกับหัวหน้าตรงๆ แบบนี้ หัวหน้าส่วนใหญ่ก็น่าจะเข้าใจ เพราะเจตนาของเราคือต้องการให้งานออกมาดีนั่นเอง และที่สำคัญก็คือ ในการสอบถามเกี่ยวกับเรื่องงานนั้น เราควรจะนัดหมายหัวหน้าของเราให้ชัดเจนและเป็นเวลาที่แน่นอน ไม่ใช่อยากถามเมื่อไหร่ก็เดินไปถาม แบบนั้นไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ เราอาจจะขอหัวหน้าว่า ทุกวันศุกร์ของสัปดาห์อยากขอคุยในเรื่องงานในประเด็นต่างๆ โดยอาจจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
- เรียนรู้ และทำความรู้จักทีมงานใหม่ให้เร็วที่สุด เราไม่ได้ทำงานคนเดียว เวลาที่เริ่มงานใหม่ โดยทั่วไป หัวหน้าจะมีการมอบหมายให้เพื่อนร่วมงานในทีม คอยดูแลในช่วงแรกๆ เพื่อที่จะได้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว ดังนั้นเราจึงควรใช้เวลาในช่วงนี้ สร้างความคุ้นเคยกับทีมงานใหม่แต่ละคน เพราะสุดท้ายแล้ว เราต้องทำงานกับคนเหล่านี้ ความสัมพันธ์ในทีมงานก็ต้องดีด้วยเช่นกัน พนักงานใหม่บางคนเป็นพนักงานที่มีประสบการณ์ ก็เลยวางตัวแบบว่าข่มๆ พนักงานเก่าอยู่บ้าง ซึ่งแบบนี้ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก เพราะจะทำให้การทำงานมีปัญหาตามมาในอนาคต เราเป็นคนใหม่ ดังนั้นเราต้องพยายามเข้าหา และศึกษาทีมงานของเราให้ดีที่สุด และเมื่อเราเข้ากับทีมงานได้ดี ผลงานและการประสานงาน การทำงานร่วมกัน ก็จะออกมาดีด้วยเช่นกัน
- พยายามขอ Feedback จากนาย ช่วง แรกที่ทำงานนั้น เนื่องจากเราอาจจะยังจับทิศทางในการทำงานร่วมกับนายยังไม่ค่อยถูกต้องนัก ดังนั้น เวลาที่เราทำงานไปได้สัก 1 สัปดาห์ เราควรจะไปขอ Feedback จากนายของเรา ว่าในสัปดาห์ที่ผ่านไปนั้น เราทำงานเป็นอย่างไร อะไรที่ควรปรับปรุงให้ดีขึ้น และอะไรที่ควรจะระมัดระวังให้ดีกว่านี้ เราจะได้เรียนรู้และปรับตัวให้เร็วที่สุด อย่ามัวแต่รอให้ถึงการประเมินผลทดลองงาน เพราะอาจจะสายไปก็ได้ครับ พยายามขอ Feedback จากนายให้บ่อยที่สุด เพราะเราจะได้รู้ว่าเราควรจะทำงานอย่างไร วางตัวอย่างไร เพื่อให้การทำงานกับบริษัทใหม่ของเราราบรื่น และสามารถสร้างผลงานได้สอดคล้องกับสิ่งที่บริษัทต้องการ
- ให้เปิดรับความท้าทายในงาน การ ที่เราเป็นพนักงานใหม่ ในบางครั้งหัวหน้าก็มักจะลองเชิงดูว่า เรากล้าที่จะเสี่ยงรับงานที่ท้าทายสักแค่ไหน ดังนั้น ถ้าเราได้รับมอบหมายงานที่ยาก และรู้สึกว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้ ก็ขอให้รับความท้าทายนี้ไว้ เพื่อพิสูจน์ฝีมือของเราเองด้วยเช่นกัน และอีกอย่างถ้าเราไม่มั่นใจมากนัก ก็พูดกับนายตรงๆ ว่า อาจจะต้องคำแนะนำเป็นระยะๆ ซึ่งคงไม่มีนายที่ไหนที่ปล่อยให้เราทำงานเอง โดยไม่มาดูแล เพราะจริงๆ แล้วงานที่เราได้รับมอบหมายนั้นก็เป็นงานของนายด้วยเช่นกัน สุดท้ายก็ต้องช่วยกันทำให้สำเร็จ แต่สิ่งที่เราจะได้ก็คือ เราจะได้เรียนรู้งานใหม่ๆ และความท้าทายใหม่ๆ ซึ่งทำให้เรามีโอกาสสร้างผลงานที่ดีได้
- อย่าเพิ่งเชื่อคำนินทา หรือข่าวลือต่างๆ การ ที่เราเข้าไปเป็นพนักงานใหม่ บางครั้งจะมีเพื่อนร่วมงานขาเม้าส์ มานินทาคนอื่นๆ ให้เราฟัง คนนี้เป็นอย่างนั้น คนนั้นเป็นอย่างนี้ อาจจะมีนินทานายให้เราฟังด้วยก็เป็นได้ พนักงานกลุ่มนี้เขาต้องการทำอะไรเราก็ไม่ทราบได้ แต่สิ่งที่เราสามารถทำได้ก็คือ การรับฟัง แต่ไม่ควรเชื่อ และทำตามที่เขาบอกในทันที เราควรจะพิจารณา และเรียนรู้จากการทำงานร่วมกับคนอื่นมากกว่า เพราะการที่เราเชื่อในทันทีนั้นอาจจะเกิดปัญหาในการทำงานตามมาก็เป็นได้ บางคนเขาอาจจะได้หวังดีกับเราก็ได้ ใครจะรู้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น