ผมเชื่อว่าทุกคนย่อมอยากประสบความสำเร็จในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชีวิตส่วนตัว หรือเรื่องของการทำงาน คนส่วนใหญ่วัดความสำเร็จกันในเรื่องของจำนวนเงินว่าใครทำเงินได้มากก็ถือว่า ประสบความสำเร็จมาก แต่ในชีวิตจริงนั้น มันไม่ใช่อย่างนั้นซะทีเดียว เงินเป็นส่วนหนึ่งใช่ แต่ก็ไม่ใช่เป็นตัวบอกว่าเราประสบความสำเร็จหรือไม่ บางคนมีเงินมากมายร่ำรวยล้นฟ้าแต่กลับไม่มีความสุขในชีวิตเลยก็มี แบบนี้เราจะเรียกว่าประสบความสำเร็จหรือไม่
คนเราแต่ละคนมีเป้าหมายชีวิตที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นตัววัดความสำเร็จของแต่ละคนก็จะไม่เหมือนกันไปด้วย เช่น บางคนมองเรื่องเงิน เรื่องฐานะเป็นตัวบอกความสำเร็จ ก็จะใช้เงินในการวัด แต่บางคนมองว่าถ้าได้ทำงานที่เรารัก และทำได้อย่างดีด้วย ก็ถือว่าเราประสบความสำเร็จตามเป้าหมายในชีวิตเราแล้ว
แต่อย่างไรก็ดี ไม่ว่าเป้าหมายในชีวิตของเราจะเป็นอะไรก็ตาม แนวทางที่จะไปสู่ความสำเร็จนั้น กลับไม่ค่อยแตกต่างกันมากนัก ผมเคยอ่านหนังสือของ ดร.คาซูโอะ อินาโมริ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท เคียวเซร่า ซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่มากของญี่ปุ่น ท่านได้ให้สูตรลับความสำเร็จออกมาเป็นสมการดังนี้
ความสำเร็จ = ความสามารถ x ความพยายาม x ทัศนคติ
- ความสำเร็จ ก็คือ เป้าหมายที่เราต้องการจะไปให้ถึง ซึ่งแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันออกไป ถ้าเราอยากจะประสบความสำเร็จจริงๆ ภาพของเป้าหมายนั้นจะต้องเป็นภาพที่เรามองเห็นอย่างชัดเจนในจินตนาการของเรา เอง เหมือนกับอุปนิสัยที่สองของ 7 Habits คือ Begin with the end in mind แปลเป็นไทยง่ายๆ ว่า ให้เริ่มต้นจากการที่เรามองเห็นภาพของตัวเราเองประสบความสำเร็จ ภาพนั้นมีอะไรบ้าง ให้เขียนออกมาให้ชัดเจน
- ความสามารถ จาก นั้นสิ่งที่เราจะต้องมีเพื่อให้ชีวิตของเราประสบความสำเร็จได้ตามภาพที่เรา คิดไว้ก็คือ ความรู้ ความสามารถที่เรามี โดยประเมินว่าสิ่งที่เรามีความรู้ ทักษะ และความสามารถต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้นจะทำให้เราประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมายที่เราตั้ง ไว้หรือไม่ ถ้าเราประเมินตนเองแล้วเห็นว่าเรายังขาดความรู้ หรือความสามารถในด้านใดบ้าง ก็ต้องวางแผนในการพัฒนาตนเอง เพื่อให้ตนเองมีความสามารถมากขึ้น
- ความพยายาม ถัด จากความรู้ ทักษะ ความสามารถที่มีแล้ว ปัจจัยถัดไปที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จได้ ก็คือ ความพยายาม ซึ่งก็หมายถึง ความมุ่งมั่นตั้งใจ ไม่ท้อถอย ไม่ถอดใจง่ายๆ แม้ว่าจะเจอกับอุปสรรคต่างๆ มากมายเพียงใดก็ตาม ปัจจัยความพยายามนี้ เริ่มเป็นปัจจัยที่สะท้อนความสำเร็จของคนเราได้ชัดเจนมากขึ้น คนแต่ละคนที่ประสบความสำเร็จไม่เท่ากัน ก็เนื่องจากความพยามยามนี่แหละครับ คนบางคนมีความรู้เท่ากัน มีความสามารถที่ไม่แตกต่างกันเลย แต่คนที่ประสบความสำเร็จได้มากกว่า กลับเป็นคนที่มีความพยายามมากกว่า มีความมุ่งมั่นมากกว่า และมีวินัยในตนเองมากกว่า
- ทัศนคติ ปัจจัย ถัดมาก็คือ ทัศนคติ ซึ่งก็คือ ความคิด และมุมมองในการมองสิ่งต่างๆ บางคนมีทัศนคติมองโลกในแง่ดี แม้ว่าจะพบเจอกับปัญหามากมาย แต่ด้วยทัศนคติที่ดี ก็ทำให้ปัญหานั้นสามารถแก้ไขลุล่วงได้อย่างดี ผิดกับคนที่มีทัศนคติที่ไม่ดี ชอบคิดไปทางลบ มองอะไรก็มองแย่ไปหมด เมื่อเจอกับปัญหา ก็จะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ บางคนไม่ต้องเจอปัญหาอะไรเลยแต่คิดลบไปก่อนแล้ว แบบนี้ความสำเร็จก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน
เพราะถ้าใครที่มีทัศคติที่ติดลบ ผลการคำนวณจะออกมาเป็นผลลบทันทีครับ ลองดูก็ได้ครับ แทนค่าสมการด้วยตัวเลขนะครับ
ความสามารถ x ความพยายาม x ทัศนคติ = ความสำเร็จ
50 x 50 x 50 = 125,000
หรือถ้าอีกคนนึงเป็นดังนี้
50 x 50 x -50 = -125,000
ไม่ว่าจะติดลบมาก หรือติดลบน้อย ยังไงผลของความสำเร็จจากสมการข้างต้น ก็ยังคงเป็นลบเสมอ แม้ว่าเราจะมีความสามารถสูงเพียงใด และมีความพยายามเลอเลิศเพียงใดก็ตาม แต่ถ้าเรามีทัศนคติที่ลบแต่เพียงเล็กน้อย ผลของความสำเร็จของเราก็จะติดลบตามไปด้วย
ถ้าอยากประสบความสำเร็จก็ ต้องไม่ลืมให้ความสำคัญกับเรื่องของทัศคติ การมองโลกในแง่ดี ต่อสิ่งต่างๆ ที่เข้ามาในชีวิต เมื่อเรามองโลกในแง่ดีแล้ว สุขภาพจิตเราก็ดีไปด้วย สุดท้ายความสำเร็จที่เราได้มามันก็ได้มาแบบไม่เครียด ได้มาแบบมีความสุข ซึ่งก็ถือว่าเป็นความสำเร็จที่แท้จริงครับ
วันนี้คุณมองโลกในแง่ดีบ้างหรือยังครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น