วันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ดีผมรับเอง แต่เรื่องไม่ดีคุณรับไป

หัวเรื่องวันนี้ดูน่ากลัวมั้ยครับ เป็นเรื่องราวของภาวะผู้นำอีกแล้วครับ โดยหลักการของการเป็นผู้นำที่ดี ซึ่งจริงๆ มันก็ไม่ใช่หลักการอะไร น่าจะเรียกกว่าเป็นสามัญสำนึกอย่างหนึ่งมากกว่า ที่คนที่เป็นผู้นำทุกคนจะต้องมีก็คือ ความรับผิดชอบ คำนี้ขอแยกออกเป็นสองคำนะครับ คือ ความรับผิด และความรับชอบ รวมกันก็เป็นความรับผิดชอบ แต่ในความเป็นจริง ก็มีผู้นำหลายคนที่รับชอบเป็นส่วนใหญ่ และอะไรที่ผิด หรือไม่ดี ก็โบ้ยให้คนอื่นรับแทน เพื่อที่จะรักษาภาพลักษณ์ที่ดีของตนเองไว้ ผมว่าผู้นำแบบนี้ไม่น่าจะได้รับความน่าเชื่อถือจากพนักงานเลย เพราะเมื่อไหร่ถ้าพนักงานรู้ความจริงทั้งหมดแล้ว (ความลับไม่มีในโลก) พนักงานก็จะตีจากไปจากผู้นำแบบนี้แน่นอน


เรื่องราวนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงๆ ในองค์กรแห่งหนึ่ง สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ผู้นำขององค์กรเห็นว่าการบริหารงานในองค์กรนั้นยังไม่เรียบร้อย ตัวผู้นำเองเป็นคนที่ค่อนข้างจะเจ้าระเบียบ ตรงต่อเวลามาก และยังคุมเข้มเรื่องของกฎระเบียบวินัย คือไม่ชอบพนักงานที่ออกกฎระเบียบที่กำหนด

มีอยู่วันหนึ่งผู้นำคนนี้ก็สั่งไปที่ฝ่ายบุคคลว่า ช่วยออกระเบียบเรื่องของเวลาทำงานด้วย ใครมาสายให้จดชื่อส่งมาให้เขาด้วย และให้ HR ออกหนังสือเตือนให้กับพนักงานทุกคนที่มาสาย อันนี้เรื่องที่หนึ่ง เรื่องที่สองก็คือ ให้ออกกฎระเบียบเรื่องของการแต่งกายให้เรียบร้อย เสื้อต้องอยู่ในกางเกง ห้ามพับแขนเสื้อ ห้ามใส่เสื้อโปโล พนักงานหญิงก็ห้ามใส่กางเกงยีนส์ ฯลฯ จากนั้นก็สั่งให้เจ้าหน้าที่บุคคลคนหนึ่งไปนั่งจับผิดพนักงานว่าใครไม่ทำตาม กฎ แล้วให้จดชื่อส่งผู้นำคนนี้ พร้อมกับให้ HR ไล่พนักงานคนนั้นออกไปเลย (แรงมาก)

สิ่งที่ผู้นำคนนี้สั่งการนั้น ผมคิดว่าเป็นเรื่องปกติ และธรรมดามากในการทำงานในบริษัท หลายบริษัทมีกฎระเบียบที่เข้มงวดมากมายกว่านี้ก็มี แต่สิ่งที่ผมรู้สึกว่าไม่ถูกต้องก็คือ ผู้นำคนนี้พูดว่า

“สิ่งที่ผมพูดมาทั้ง หมดนั้น ให้ทางฝ่ายบุคคลออกระเบียบมาให้ชัดเจน และให้คุณ (ผู้จัดการฝ่ายบุคคล) ลงนามสั่งการออกไปเลย โดยที่อย่าให้ผมเข้าไปมีส่วนกับการออกกฎระเบียบ และการนั่งจับผิดพนักงานในครั้งนี้ เพราะนี้คือหน้าที่ของคุณ ไม่ใช่ของผม” !!!!!

ผลที่ออกมาคืออะไรครับ ผู้จัดการฝ่ายบุคคลลาออกทันทีครับ เนื่องจากภาวะผู้นำ ของผู้นำคนนี้ไม่ใช่ผู้นำที่แท้จริงเลย อย่างที่บอกครับ เรื่องอะไรที่ดีๆ มีผลดีต่อตัวผู้นำเอง เช่น การให้รางวัลพนักงานดีเด่น การมอบรางวัลอะไรก็ตาม ผู้นำคนนี้จะเป็นคนรับทำให้ทั้งหมด แต่เรื่องอะไรที่เป็นเรื่องไม่ดี และทำให้พนักงานรู้สึกไม่ดี แต่ผู้นำอยากให้ทำ ก็จะให้คนอื่นรับแทน เพราะต้องการให้พนักงานทุกคนมองตัวเองว่าเป็นผู้นำที่ดีอยู่เสมอ

ผมมองว่าสิ่งที่เขาทำนี่แหละครับ ไม่ใช่ผู้นำที่แท้จริงเลย สิ่งที่เราได้ยินมาเสมอก็คือ ผู้นำที่ดีต้องกล้าทำกล้ารับ ถ้าเราอยากให้พนักงานทำให้ถูกต้อง เราก็ต้องเป็นคนสั่งการเอง เป็นคนรับหน้าเองว่า นี่คือความคิดของผมที่อยากให้พนักงานทุกคนร่วมมือกันเพื่อบริษัท ไม่ใช่เรื่องไม่ดี ก็ให้หน่วยงานอื่นรับไป พนักงานก็ด่าหน่วยงานที่รับไปนั้น ผู้นำก็ลอยตัว แต่ผลที่จะตามมามันคือความขัดแย้งที่จะค่อยๆ ฝังรากลึกลงไป และจะแก้ไขได้ยากขึ้นมากในอนาคต

ถ้าถามว่าแล้วจะต้องทำอย่างไรกับผู้นำคนนี้ สิ่งที่ผมตอบได้ทันทีก็คือ “ทำใจ” จากนั้นก็ต้องอาศัยความกล้าหาญของเหล่าผู้จัดการทั้งหลาย ในการบอกผู้นำคนนั้นว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง เพราะจะทำให้เกิดผลเสียอะไรบ้างตามมา ผมเชื่อว่า ครั้งแรก อาจจะไม่ได้ผล ก็คือไม่ฟัง ก็ต้องพยายามครั้งที่สอง สาม สี่ และห้า ไปเรื่อยๆ อยู่ที่ว่าผู้จัดการทั้งหลายนั้นจะทนได้นานสักเท่าไร แต่ส่วนใหญ่ก็ทนอยู่ได้ไม่นานครับ จะไปเสียก่อนที่จะทำให้ผู้นำคนนั้นรู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด อะไรควร อะไรไม่ควร

การที่ไม่มีใครบอกเขาในสิ่งที่เขาทำอยู่ว่าสิ่งที่เขาทำอยู่นั้นมันดี หรือไม่ดี นั้นมันก็เท่ากับบอกเขาทางอ้อมว่า นี่คือสิ่งที่ถูกต้องนั่นเอง และเขาก็จะทำแบบนั้นต่อไปเรื่อยๆ ก็ต้องอาศัยผู้จัดการที่มีภาวะผู้นำอีกเช่นกันในการจัดการกับผู้นำลักษณะนี้

ใครที่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้ และมีวิธีการอื่นๆ ที่ดีๆ ในการจัดการ ก็สามารถแบ่งปันความคิดเห็นกันได้นะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น