วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2558

แนวโน้มสวัสดิการพนักงานในอีก 3-5 ปีข้างหน้า

benefits111

ได้มีโอกาสอ่านงานสำรวจทางด้านสวัสดิการของทาง SHRM หรือที่มีชื่อเต็มว่า Society for Human Resource Management ซึ่งถือว่าเป็นองค์กรชั้นนำที่ไม่แสวงหากำไรในเรื่องของงานบริหารทรัพยากร บุคคลของประเทศสหรัฐอเมริกา ได้มีการทำสำรวจสวัสดิการพนักงานที่พนักงานจะให้ความสำคัญมากขึ้นในอนาคตอีก 3-5 ปีข้างหน้า เห็นว่าน่าสนใจดีก็เลยเอามาเล่าต่อให้อ่านกันครับ


ผลจากการสำรวจสวัสดิการ ก็พบว่าแนวโน้มสวัสดิการพนักงานในอนาคตที่จะสามารถทำให้พนักงานสนใจ และอาจจะมาทำงานด้วย ก็มีดังต่อไปนี้ครับ
  • อันดับที่ 1 Health Care สวัสดิการอันดับหนึ่งที่พนักงานต้องการมากที่สุดก็คือ สวัสดิการทางด้านการดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของค่ารักษาพยาบาลทั้งผู้ป่วยนอก และผู้ป่วยใน การตรวจสุขภาพ และการดูแลสุขภาพต่างๆ ของพนักงาน ซึ่งก็เข้ากับแนวโน้มทางด้านการดูแลสุขภาพของคนเราในยุคปัจจุบันนี้
  • อันดับที่ 2 Retirement saving and planning อันดับที่สองที่พนักงานมองมากขึ้นกว่าในอดีตก็คือ สวัสดิการเกษียณอายุ ซึ่งพนักงานเองจะมองว่า ถ้าทำงานกับองค์กรไปจนเกษียณแล้ว เขาจะได้อะไร สิ่งที่พนักงานอยากได้ก็คือ องค์กรช่วยพนักงานในการออม และส่งเสริมเรื่องของการออมเพื่อการเกษียณ และต้องการให้มีการช่วยวางแผนในการเกษียณอายุไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเงิน และเรื่องของการใช้ชีวิต
  • อันดับที่ 3 Flexible working benefits อันดับที่สามที่เป็นแนวโน้มกำลังมาแรงอีกเรื่องก็คือ ต้องการสวัสดิการในการทำงานที่ยืดหยุ่นมากขึ้น เช่น เรื่องของการทำงานจากที่บ้าน การเข้างานแบบไม่กำหนดเวลา หรือสามารถทำงานแบบสะสมชั่วโมงการทำงานได้ในสัปดาห์ เป็นต้น แนวโน้มในเรื่องนี้ เกิดขึ้นมากไม่ว่าจะเป็นในประเทศใดก็ตาม เนื่องจากเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่เราสามารถที่จะทำงานได้ทุกสถานที่ และทุกเวลา ก็เลยทำให้เริ่มเกิดความต้องการการทำงานแบบยืดหยุ่นมากขึ้น
  • อันดับที่ 4 Professional and Career Development ก็ คือสวัสดิการทางด้านการพัฒนาตนเอง ให้มีความก้าวหน้าในสายอาชีพการทำงานของตน สิ่งที่พนักงานต้องการมากขึ้นก็คือ การทำงานแล้วรู้ว่าตนเองจะเติบโตไปไหน และต้องทำอย่างไรถึงจะเติบโตไปได้อย่างที่ตนต้องการ หรืออีกนัยหนึ่ง พนักงานที่เข้ามาทำงาน ต้องการให้มีที่ปรึกษาภายในองค์กรที่สามารถให้คำปรึกษาทางด้าน Career ของตนเองในองค์กรได้ เพื่อที่จะได้สามารถวางแผนในการพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่อง และทำให้ตนเองก้าวหน้าขึ้นไปได้ตามเป้าหมายที่ตนต้องการ
  • อันดับที่ 5 Leave Benefits จากเดิมในอดีตสวัสดิการตัวนี้อยู่ในอันดับที่ 2-3 มาโดยตลอด แต่ในอนาคตข้างหน้านี้ สวัสดิการด้านการลาในรูปแบบต่างๆ นั้น พนักงานเริ่มให้ความสำคัญน้อยลง แต่ก็ยังต้องการอยู่ สาเหตุที่ทำให้ความต้องการเรื่องการลาลดน้อยลงไป ก็เนื่องจากองค์กรให้สวัสดิการในการทำงานที่ยืดหยุ่นมากขึ้น เรื่องของการลาต่างๆ ก็เลยถูกลดความสำคัญลงไปได้
  • อันดับที่ 6 Preventive Healthcare and wellness อันดับ ที่ 6 นี้ เดิมทีพนักงานไม่ค่อยใส่ใจมากนัก แต่ในการสำรวจครั้งล่าสุดของ SHRM นั้น พบว่า พนักงานเริ่มให้ความสนใจในสวัสดิการตัวนี้มากขึ้น สวัสดิการเรื่องของการป้องกัน และการเสริมสร้างสุขภาพที่ดี เช่น การฉีดวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ การส่งเสริมการออกกำลังกาย การช่วยพนักงานให้สามารถเลิกเหล้า เลิกบุหรี่ การเล่นโยคะ ฯลฯ ซึ่งแนวโน้มในระยะยาว นั้นสวัสดิการตัวนี้จะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น เพราะยิ่งถ้าองค์กรส่งเสริมสิ่งเหล่านี้ให้กับพนักงาน ก็จะทำให้องค์กรสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายทางด้านการรักษาพยาบาลของพนักงานลงไป ได้ หรือแม้ว่าค่าใช้จ่ายทางด้านสวัสดิการตัวนี้จะเพิ่มขึ้นแทนค่ารักษาพยาบาล แต่ก็ยังเกิดผลดีต่อพนักงานก็คือ พนักงานไม่ป่วยบ่อย และทำให้ประสิทธิภาพของการทำงานดีขึ้นได้ตลอด
นี่คือแนวโน้ม สวัสดิการในอนาคตที่ SHRM สำรวจไว้ในปี 2014 เมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งผมอ่านดูแล้วก็เห็นว่ามันก็ไม่ได้แตกต่างกับความต้องการของคนไทยสักเท่า ไหร่ เพราะเดี๋ยวนี้โลกเราเล็กลง องค์กรระดับโลกต่างๆ ก็เริ่มไปเปิดฐานธุรกิจในประเทศต่างๆ และนำเอาสวัสดิการดีๆ ตามไปด้วย ก็เลยทำให้เรื่องของสวัสดิการพนักงานไม่ได้เป็นแนวโน้มของประเทศใดประเทศ หนึ่งอีกต่อไป

ยิ่งถ้าเราเปิดเสรีการค้ามากขึ้น เรื่องของสวัสดิการพนักงานจะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่องค์กรสามารถนำมาสร้างจุด เด่นและสร้างความได้เปรียบในการบริหารทรัพยากรบุคคลของบริษัทได้อย่างดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น